คำสั่งคำร้องที่ 3425/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามกฎหมาย จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 ในเรื่องการรับฟังคำพยานโจทก์ และในเรื่องที่ว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 35,43,157 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุก ไว้ 1 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 ส่วนจำเลยที่ 1 ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 74)
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 75)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาข้อ 3 และ 4 ของจำเลยที่ 2 โต้แย้งดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ในการฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาข้อ 5 ของจำเลยที่ 2 ที่ว่า ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน กลับนำข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่นั้น ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยตาม ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนมิได้นำข้อเท็จจริงใหม่ขึ้นมาวินิจฉัย แต่อย่างใด แท้จริงแล้วเป็นเรื่องที่จำเลยที่ 2 โต้แย้งจะ ให้รับฟังข้อเท็จจริงตามที่จำเลยที่ 2 นำสืบ ส่วนการจะรับฟัง หลักฐานใดหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล ฎีกาข้อ 5 ของจำเลยที่ 2 เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา ของจำเลยที่ 2 ชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share