คำสั่งคำร้องที่ 2742/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ได้ยื่นฎีกาจำนวน 2 ฉบับฉบับแรกยื่นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2535 ศาลชั้นต้นสั่งว่าทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 จึงไม่รับฎีกาจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้ยื่นฎีกาฉบับที่สอง เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2535 ศาลชั้นต้นสั่งว่าศาลได้มี คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยแล้ว ปรากฏตามฎีกาของจำเลย ลงวันที่ 21 เดือนนี้ จึงไม่รับฎีกาฉบับนี้ของจำเลย
จำเลยที่ 1 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสองฉบับนี้มีเหตุผลสมควรที่ศาลชั้นต้นจะรับไว้เพื่อให้ศาลฎีกาได้วินิจฉัย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 101)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน15,000 บาท ให้โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2531จนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จสิ้น
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 51,600 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 91,93)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 96 แผ่นที่ 3)
จำเลยที่ 1 ไม่ได้นำเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาและค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาล

คำสั่ง
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกามาโดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234จึงรับวินิจฉัยคำร้องของ จำเลยที่ 1 ไม่ได้ ให้ยกคำร้องค่าคำร้องให้เป็นพับ

Share