คำสั่งคำร้องที่ 2025/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เมื่อผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีนี้ในศาลชั้นต้นไม่รับรองให้จำเลยฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง จึงให้รับฎีกาของจำเลยเฉพาะข้อ 3 ซึ่งเป็น ปัญหาข้อกฎหมายส่วนฎีกาข้ออื่นซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงนั้น ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ที่แก้ไขแล้ว จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยในประเด็นข้อพิพาทข้อ 2ที่ว่า การกระทำของจำเลยมิใช่เป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์เสียหายและ ประเด็นข้อพิพาทข้อ 3 ที่ว่า ค่าเสียหายมีเพียงใดนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญสมควรที่จะได้รับการวินิจฉัยจากศาลสูง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าวไว้วินิจฉัยต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 99 แผ่นที่ 4)
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 163,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง (7 มิถุนายน 2532) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 86)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 97)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยข้อ 4 และข้อ 5 เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา เว้นแต่ผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีนั้นในศาลอุทธรณ์ได้มีความเห็นแย้งหรือผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นก็ดี ศาลอุทธรณ์ก็ดีได้รับรองไว้หรือรับรองในเวลาตรวจฎีกาว่ามีเหตุสมควร ที่จะฎีกาได้ ถ้าไม่มีความเห็นแย้งหรือคำรับรองเช่นว่านี้ ต้องได้รับอนุญาตให้ฎีกาเป็นหนังสือจากอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248เมื่อผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาในศาลชั้นต้นไม่รับรองในเวลาตรวจฎีกาว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาได้ และศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาในข้อเท็จจริงของจำเลยดังกล่าวแล้ว จำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งขอให้ศาลฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ให้ยกคำร้อง อนึ่ง จำเลยเสียค่าคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับฎีกาเกินมา 160 บาท จึงให้คืนแก่จำเลย

Share