แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับประทับฟ้องโจทก์โดยอ้างว่าศาลไม่มีอำนาจพิจารณาคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จึงไม่ใช่กรณี ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ ไม่ต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 วรรคแรก ประกอบมาตรา 220
ย่อยาว
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 วรรคแรก ประกอบกับมาตรา 220 จึงไม่รับฎีกาของโจทก์
โจทก์เห็นว่า คดีนี้เป็นกรณีที่ศาลได้มีคำสั่งไม่รับประทับฟ้องโจทก์
โดยอ้างว่าศาลไม่มีอำนาจพิจารณาคดีนี้ มิใช่กรณีที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องในการไต่สวนมูลฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 วรรคแรก ศาลชั้นต้นจึงไม่อาจนำเอาบทบัญญัติมาตราดังกล่าวมาเป็นเหตุสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ นอกจากนี้คดีนี้มิใช่กรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีจึงไม่อยู่ในบังคับแห่งมาตรา 220 โจทก์จึงฎีกาได้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับที่ 25)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341, 83 ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน 29,500 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 1 จำนวน 20,000 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 2 ฯลฯ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่ประทับฟ้องโจทก์ จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 20)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 22)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้เป็นเรื่องศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับประทับฟ้องโจทก์โดยอ้างว่าศาลไม่มีอำนาจพิจารณาคดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจึงไม่ใช่กรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 วรรคแรก ประกอบมาตรา 220 จึงให้รับฎีกาของโจทก์