คำสั่งคำร้องที่ 367/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 ในข้อหามีอาวุธปืนฯ และพาอาวุธปืนฯ นั้นศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และศาลอุทธรณ์ก็ลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี กรณีจึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับฎีกาในข้อหาดังกล่าว และให้รับฎีกาเฉพาะข้อหามีเฮโรอีนไว้ใน ครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีน
จำเลยที่ 1 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งเป็นการฎีกาที่แปลความหมายจากข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์รับฟังได้ยุติแล้ว มิได้เป็นการโต้เถียงหรือ โต้แย้งการใช้ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์แต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ในข้อหามีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 77 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 15 วรรคสอง มาตรา 66 วรรคสอง รวม 2 กรรม ความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายให้ลงโทษประหารชีวิต และความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนให้ลงโทษประหารชีวิต และ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7 มาตรา 72 วรรคแรก กรรมหนึ่ง และตามมาตรา 8 ทวิ วรรคแรก มาตรา 72 ทวิ วรรคสอง กับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 อีกกรรมหนึ่ง ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุก2 ปี ความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดอีกกรรมหนึ่งผิดตามกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯซึ่งเป็นบทหนัก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุก 1 ปีเมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว คงให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง เพียงสถานเดียว ของกลางให้ริบ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2มีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและฐาน จำหน่ายเฮโรอีน ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง มาตรา 66 วรรคสอง แต่เป็นกรรมเดียว ผิดกฎหมายสองบท ซึ่งมีโทษหนักเท่ากัน ให้ลงโทษในความผิด ฐานจำหน่ายเฮโรอีน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ประหารชีวิต ลดโทษให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 คนละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52(1) เป็นจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 ตลอดชีวิต ลดโทษให้จำเลยที่ 1 ในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต กระทงละหนึ่งในสาม คงเหลือโทษ รวม 2 กระทง จำคุก 2 ปี รวมโทษของจำเลยที่ 1 ทุกกระทงตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3)แล้ว คงจำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 76)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 77 แผ่นที่ 2)

คำสั่ง
ที่จำเลยฎีกาอ้างว่าเป็นข้อกฎหมาย และอ้างว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดไปจากพยานหลักฐานในสำนวนนี้ เป็นเรื่องที่บิดเบือนข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเพื่อให้เป็นข้อกฎหมาย ฎีกาของจำเลย จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาข้อนี้ชอบแล้ว

Share