คำสั่งคำร้องที่ 2667/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา เนื่องจากจำเลยคดีนี้ได้ถูกบุคคล ภายนอกยื่นฟ้องอีกคดีหนึ่ง (คดีศาลแพ่งหมายเลขแดงที่ 22453/2536) และคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว โดยศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์และให้โจทก์ในคดีดังกล่าวใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลและค่าทนายความจำนวน 20,000 บาท แทนจำเลยจำเลยได้ขอให้ศาลออกคำบังคับแจ้งให้โจทก์ปฏิบัติตามคำบังคับ ต่อมาธนาคารคอมเมอร์เชียลแบงค์ออฟ ฮ่องกง โจทก์ในคดีดังกล่าวได้วางเงินจำนวน 126,010 บาท เพื่อชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยต่อศาลแพ่งแล้ว โจทก์ขอกราบเรียนว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นการวางตามคำพิพากษา ดังนั้นจึงเป็นเงิน ของบุคคลภายนอกซึ่งถึงกำหนดชำระแก่จำเลยและจำเลยเป็น ผู้มีสิทธิที่จะรับเงินดังกล่าวนั้น โดยที่จำเลยคดีนี้มี ภาระหนี้อยู่กับโจทก์เป็นจำนวนมากและเป็นมูลหนี้ตามคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ หนี้ดังกล่าวไม่มีหลักประกันแต่อย่างใด อีกทั้ง จำเลยเป็นบุคคลต่างด้าว ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในประเทศไทย จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดที่จะยึดมาชำระหนี้ได้ อันจะทำให้ โจทก์ได้รับความเสียหาย หากโจทก์ชนะคดีก็เป็นการยากที่จะ บังคับคดีจากจำเลย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและบรรเทา ความเสียหายแก่โจทก์ ขอศาลฎีกาได้โปรดไต่สวนเป็นกรณีฉุกเฉิน และมีคำสั่งยึดหรืออายัดเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ธนาคาร คอมเมอร์เชียลแบงค์ออฟ ฮ่องกง ได้วางเพื่อชำระหนี้ ตามคำพิพากษาแก่จำเลยไว้ก่อน โปรดอนุญาต หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 4,965,281.07 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 18 ต่อปีนับแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2535จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์แต่ดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 44,075.37 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา (อันดับ 71) คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 80,79)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว กรณีตามคำร้องไม่มีเหตุฉุกเฉิน จึงไม่ จำต้องไต่สวนคำร้องขอในเหตุฉุกเฉิน และคำร้องขอให้คุ้มครอง ชั่วคราวในระหว่างฎีกา ย่อมตกไปในตัว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share