คำสั่งคำร้องที่ 2558/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า กรณีต้องห้าม มิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญา ในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 จึงไม่รับฎีกาโจทก์ โจทก์เห็นว่า คำว่า “พิพากษายกฟ้องโจทก์” ตามมาตรา 220 หมายความถึงการที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยเนื้อหาแห่งคดีทั้งสองศาลแต่การที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ในเนื้อหาแห่งคดีและศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยกอุทธรณ์ของโจทก์โดยมิได้วินิจฉัยในเนื้อหาแห่งคดี ฎีกาโจทก์จึงไม่ตกอยู่ภายใต้บังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 และฎีกาข้อ 2.1 ที่ว่าศาลอุทธรณ์ภาค 2 มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาของศาลในชั้นอุทธรณ์ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานในสำนวนว่าจำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์ โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 45) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 46)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์ กรณีจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่ห้ามมิให้คู่ความฎีกา โจทก์จึงฎีกาคัดค้าน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้ ให้รับฎีกาของโจทก์ ไว้พิจารณาดำเนินการต่อไป

Share