แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้ ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกิน 200,000 บาทต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 248 ฎีกาข้อ 2.2 และ 2.3 ล้วนเป็นปัญหา ข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสองคืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด จำเลยทั้งสองเห็นว่า ฎีกาที่ว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยทั้งสองด้วย หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 158) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน จำนวน 200,000 บาท ให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ เจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 152) จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 155)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ปัญหาเรื่องอายุความตามฎีกาของจำเลยข้อ 2.3 จำเลยฎีกาว่า การที่โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อฟ้องเรียกค่าเสียหายเนื่องจากทรัพย์ที่เช่าซื้อซึ่งโจทก์ยึดคืนมาชำรุดทรุดโทรม โจทก์ขายได้ราคาต่ำกว่าค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระซึ่งผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดเป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ผู้เช่าซื้อใช้ทรัพย์บุบสลาย จึงมีอายุความ 6 เดือน นับแต่ วันที่โจทก์ได้รับทรัพย์ที่เช่าซื้อคืน ตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 562,563 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ให้ศาลชั้นต้นรับฎีกาข้อ 2.3 ของจำเลย แล้วดำเนินการต่อไป