คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4783/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร เป็นความผิดสำเร็จนับแต่จำเลยเริ่มพรากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ไปโดยมีเจตนาเพื่อการอนาจาร แม้จำเลยยังไม่ได้กระทำอนาจารผู้เสียหายก็ตามการที่จำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหายหลังจากนั้นจึงเป็นความผิดอีกกรรมหนึ่งซึ่งต่างกรรมต่างวาระกับความผิดดังกล่าว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรม.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 278, 318
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 278 กระทงหนึ่ง กับมีความผิดตามมาตรา 318 วรรคสามอีกกระทงหนึ่ง ลดมาตราส่วนโทษตามมาตรา 75 กึ่งหนึ่งแล้ว ข้อหาความผิดตามมาตรา 278 จำคุก 6 เดือน ข้อหาความผิดตามมาตรา318 วรรคสาม จำคุก 1 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 2 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยตามมาตรา 78อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาว่าการกระทำของจำเลยในความผิดฐานพรากผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจาร และความผิดฐานกระทำอนาจารเป็นความผิดกรรมเดียวกัน เพราะมีเจตนาเดียวกันและความผิดฐานกระทำอนาจารเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของความผิดฐานพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การที่จำเลยมีเจตนาพรากผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่าความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารสำเร็จนับแต่จำเลยเริ่มพรากผู้เสียหายไปโดยมีเจตนาดังกล่าวแล้ว แม้จำเลยยังมิได้กระทำอนาจารผู้เสียหายก็ตามการที่จำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหายหลังจากนั้น จึงเป็นความผิดอีกกรรมหนึ่งซึ่งต่างกรรมต่างวาระกับความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร การกระทำของจำเลยจึงเป็นหลายกรรมต่างกันเป็น2 กระทง
พิพากษายืน.

Share