คำสั่งคำร้องที่ 675/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลย เป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ เป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา 219 (ที่ถูกคือมาตรา 218 วรรคหนึ่ง) ไม่รับฎีกา จำเลยเห็นว่าฎีกาของจำเลยเรื่องเกี่ยวกับอำนาจฟ้องที่ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จึง ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีนี้และไม่มีอำนาจร้องทุกข์หรือเป็นโจทก์ดำเนินคดีอาญากับจำเลย ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 จำคุก 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 132) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 137)

คำสั่ง คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่จำเลยฎีกาว่าพฤติการณ์แห่งคดี โจทก์รู้ถึงสภาพความเป็นอยู่ของจำเลยว่า จำเลยไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่โจทก์ได้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายนั้น เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ ซึ่งวินิจฉัยว่า ไม่ปรากฏว่าโจทก์รับเช็คพิพาทไว้โดยรู้ว่า จำเลยไม่อาจใช้หนี้ตามเช็คได้ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share