คำสั่งคำร้องที่ 577/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้ ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกิน 200,000 บาท ต้องห้าม ฎีกาในข้อเท็จจริง จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงข้อ 1 ถึง ข้อ 3 จึงต้องห้ามฎีกา ส่วนปัญหาข้อกฎหมายแม้เป็นข้อกฎหมายแต่ก็ไม่เป็นสาระแก่คดีจึงไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า บุคคลภายนอกชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้แทนลูกหนี้ที่มีการจำนองเป็นประกันจะกระทำได้หรือไม่ และฎีกาข้อ 1 ถึงข้อ 3 เป็นฎีกาสนับสนุนว่าจำเลยมีสิทธิ รับชำระหนี้จากโจทก์หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่มีสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์จำนวน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ของต้นเงิน ดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (วันฟ้อง 26 กุมภาพันธ์ 2535)เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 87 แผ่นที่ 2) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 90)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ผู้ที่จะ ไถ่ถอนที่ดินพิพาทได้คือผู้จำนอง หรือผู้รับมอบอำนาจ หรือ ผู้จัดการมรดกของผู้จำนองเท่านั้น โจทก์ไม่มีนิติสัมพันธ์ กับผู้จำนอง ไม่มีสิทธิที่จะไถ่ถอนจำนอง จำเลยผู้รับจำนอง ยอมรับเงินจากโจทก์ทั้ง ๆ ที่รู้จึงเป็นการรับเงินไว้โดย ปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ จำเลยฎีกาว่า นอกจาก ผู้จำนองแล้ว บุคคลภายนอก (โจทก์) ยังสามารถชำระหนี้ จำนองได้ หากผู้รับจำนองยินยอม การจำนองย่อมระงับสิ้นไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 314,744(1) ฎีกาข้อนี้ของจำเลยจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีโดยตรง จึงให้รับฎีกาของจำเลยในปัญหาดังกล่าว และ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป

Share