แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีมีทุนทรัพย์ ในศาลแพ่ง 150,000 บาท โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด โจทก์เห็นว่า คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกามีจำนวนเกินกว่า 200,000 บาท จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันควรได้รับการวินิจฉัย จากศาลสูง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 106 แผ่นที่ 5-7) โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนใบแทนโฉนดที่ดินและเรียกกรรมสิทธิ์ คืนจากจำเลยทั้งสอง ฯลฯ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 104) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 104)
คำสั่ง ปัญหาว่าจำเลยได้ยึดถือที่ดินพิพาทไว้โดยเจตนายึดถือเพื่อตนหรือถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทแทนโจทก์หรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ราคาทรัพย์สินที่พิพาทในชั้นฎีกาเป็นอย่างเดียวกับ ในศาลชั้นต้น ผู้ฎีกาต้องเสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาตามราคา เช่นเดียวกับในศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 150 วรรคสอง เมื่อที่ดินพิพาทกำหนดราคาไว้ในศาลชั้นต้นเป็นเงิน 150,000 บาท จึงเป็นคดีที่มีราคาทรัพย์สินที่พิพาท กันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง