แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรณีที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทข้อความที่กล่าวจะต้องมุ่งเจาะจงถึงบุคคลใดโดยเฉพาะ และโจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความถึงบุคคลผู้ถูกหมิ่นประมาทนั้นด้วย
เมื่อในคำโฆษณามีความหมายเฉพาะนายแพทย์ชายคนหนึ่งไม่มีกินความถึงนายแพทย์ทุก ๆ คนของโรงพยาบาลศิริราช ทั้งโจทก์หาได้นำสืบถึงนายแพทย์คนที่ถูกใส่ความหมิ่นประมาทก็ย่อมทราบไม่ได้ว่านายแพทย์คนใดเป็นผู้เสียหาย
เมื่อตามคำฟ้องไม่มีช่องทางแสดงให้เห็นว่าจำเลยมุ่งหมายกล่าวใส่ความถึงนายแพทย์เฉลิม นายแพทย์เฉลิมจึงมิใช่ผู้เสียหายอันจะพึงร้องทุกข์ได้
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยเป็นบรรณธิการหนังสือพิมพ์ลงโฆษณามีข้อความว่า”ฯลฯ ผมกำลังได้รับความโกรธแค้นอย่างสาหัสเพราะน้ำมือของผู้ชายใจทรามแห่งโรงพยาบาลศิริราช เรื่องของผมมีดังนี้ภรรยาผมเป็นข้าราชการทางรัฐบาลได้มีคำสั่งให้ไปตรวจร่างกาย ฯลฯเมื่อภรรยาของผมเข้าไปในห้องก็ถูกนายแพทย์ชายบังคับให้เปลื้องผ้าออกหมด ภรรยาของผมปฏิเสธแต่นายแพทย์ผู้นั้นขู่ว่า ฯลฯ เธอถึงกับร้องให้แต่ก็จำต้องยอมเปลื้องออกหมดสิ้นตามคำสั่งของนายแพทย์คนนั้น เมื่อเปลื้องผ้าออกหมดแล้วก็โดนบังคับให้นอนบนเตียงอีกด้วยภายในห้องนั้นมีภรรยาของผมกับนายแพทย์คนนั้นสองต่อสองเท่านั้น หมอคนนั้นได้ลูบคลำร่างกายของภรรยาผมไปมาบางครั้งก็บีบเคล้นอวัยวะบางส่วนอันเป็นของสงวนของสตรีเพศอีกด้วย ถึงแม้ภรรยาผมจะร้องให้และขอร้องให้มันยุติการตรวจแบบลามกเช่นเดิมแต่หมอกลับตบหน้าภรรยาของผมและบอกให้ภรรยาของผมนอนเฉย ๆจนกระทั่งพอใจของเขาแล้วเข้าจึงปล่อยให้ภรรยาของผมแต่งตัวออกไปนอกห้องได้” เรื่องนี้นายแพทย์เฉลิม พรมมาส อธิบดีกรมมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว
จำเลยสู้ข้อกฎหมาย 2 ข้อคือ ข้อ 1. ข้อความที่ลงพิมพ์เป็นหมิ่นประมาทนายแพทย์โรงพยาบาลศิริราชคนใดหรือไม่ 2. นายแพทย์เฉลิมพรมมาสไม่ใช่ผู้เสียหาย ข้อความตามอื่นรับตามฟ้อง คู่ความไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นการใส่ความและอาจทำให้นายแพทย์โรงพยาบาลศิริราชเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง และนายแพทย์เฉลิมเป็นผู้เสียหายมีสิทธิร้องทุกข์ จำเลยมีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 282
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามฟ้องของโจทก์ที่กล่าวบรรยายถึงคำโฆษณาของจำเลยนั้นมีความหมายเฉพาะนายแพทย์ชายคนหนึ่งของโรงพยาบาลศิริราชที่ได้ทำการตรวจโรคข้าราชการสตรีเท่านั้น ไม่มีข้อความใดที่จะแสดงว่าฟ้องของโจทก์จะกินความถึงนายแพทย์ทุก ๆ คนของโรงพยาบาลศิริราชถูกจำเลยหมิ่นประมาท ข้อความที่จำเลยโฆษณาดังฟ้องของโจทก์ซึ่งบรรยายถึงการกระทำของนายแพทย์ชายผู้นั้นเป็นการใส่ความเอานายแพทย์ชายผู้นั้นทำให้ผู้ถูกใส่ความเสียหายชื่อเสียงหรืออาจทำให้คนทั้งหลายดูหมิ่นหรือเกลียดชังได้ อันเป็นการหมิ่นประมาทแต่จะต้องเป็นข้อความที่กล่าวเจาะจงถึงบุคคลใดและโจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความถึงบุคคลที่ถูกหมิ่นประมาทนั้นในคดีนี้โจทก์ก็หาได้นำสืบว่านายแพทย์ชายคนใดเป็นผู้ที่ถูกจำเลยกล่าวใส่ความหมิ่นประมาทแต่อย่างไรไม่ จึงทราบไม่ได้ว่านายแพทย์ชายคนใดแห่งโรงพยาบาลศิริราชเป็นผู้ได้รับความเสียหายอันเนื่องจากการกระทำของจำเลย ทั้งการฟ้องของโจทก์ไม่มีช่องทางจะแสดงให้เห็นว่าจำเลยมุ่งหมายกล่าวใส่ความนายแพทย์เฉลิมพรมมาส นายแพทย์เฉลิม พรมมาสจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
พิพากษายืน