คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องบรรยายว่ารถของจำเลยชนรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยจากโจทก์เสียหาย โจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว โจทก์ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาเรียกร้องจากจำเลยต่อไป ดังนี้เป็นเรื่องที่โจทก์อยู่ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีต่อจำเลย โจทก์ย่อมใช้สิทธิในนามของตนเองได้ตาม มาตรา 880,226 หาใช่เป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้องอันต้องทำเป็นหนังสือตาม มาตรา 306 ไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์มอบให้จำเลยที่ 2 ไปบรรทุกไม้ จำเลยที่ 3 เป็นผู้ขับรถคันนี้ไปชนรถยนต์โดยสารของบริษัทยนต์เพ็ชรบุรีขนส่ง จำกัด ซึ่งเอาประกันไว้กับโจทก์เสียหาย 5,950 บาท โจทก์ได้ชำระไปแล้ว โจทก์ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยต่อไป

จำเลยให้การว่าจำเลยที่ 1 มอบรถให้จำเลยที่ 2 ไปให้ผู้ซื้อดูจำเลยที่ 3 กลับขับไปรับจ้างบรรทุกไม้ด้วยตนเอง จำเลยไม่ต้องรับผิดเพราะรถยนต์ของบริษัทรถยนต์เพ็ชรบุรีขนส่ง จำกัด มาชนรถของจำเลยที่ 1 เอง โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเพราะบริษัทโจทก์ไม่ได้รับมอบสิทธิเรียกร้องเป็นหนังสือจากบริษัทรถยนต์เพ็ชรบุรีขนส่งจำกัด

ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยาน พิพากษายกฟ้องเห็นว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยเพราะไม่ได้รับมอบสิทธิเรียกร้องเป็นหนังสือจากบริษัทรถยนต์เพ็ชรบุรีขนส่ง จำกัด และไม่ได้แนบเอกสารดังกล่าวแล้วมาพร้อมฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้พิจารณาพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำบรรยายในฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องที่โจทก์อยู่ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยคือบริษัทรถยนต์เพ็ชรบุรีขนส่ง จำกัด ซึ่งมีต่อจำเลยเพราะข้อหาของโจทก์ว่าจำเลยเป็นฝ่ายกระทำผิดขับรถยนต์ของจำเลยไปชนเอารถของผู้เอาประกันภัยเสียหาย ซึ่งผู้เอาประกันภัยได้ประกันภัยแก่โจทก์ ๆ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 880 วรรคต้นดังที่ศาลอุทธรณ์อ้าง และมีมาตรา 226 เป็นบทสนับสนุนให้โจทก์ผู้รับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัยใช้สิทธิในนามของโจทก์เองได้ หาใช่เป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้องตาม มาตรา 306 อย่างไรได้ไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

จึงพิพากษายืน

Share