แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ภรรยาผู้ตายย่อมมีสิทธิเป็นผู้จัดการปลงศพผู้ตาย และมีสิทธิไปกู้เงินมาใช้จ่ายในการทำศพผู้ตายได้ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากทายาทอื่น
เงินที่กู้มาใช้จ่ายในการทำศพเจ้ามรดก เมื่อเป็นจำนวนไม่เกินสมควรแล้ว ให้หักออกจากกองมรดกได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของนายทองบิดาโจทก์ จากจำเลยผู้เป็นมารดาเลี้ยง โดยอ้างว่านายทองมีสินเดิม จำเลยไม่มีสินเดิม จำเลยให้การว่า นายทอง ไม่มีสินเดิม จำเลยมีสินเดิม แต่ได้ใช้จ่ายไปในระหว่างอยู่กินด้วยกัน จำเลยได้กู้เงินมาทำศพผู้ตาย 1,000 บาท ขอให้หักเงินกองมรดกใช้สินเดิมและใช้หนี้เจ้าหนี้ เหลือแล้วแบ่งให้ทายาทต่อไป
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยมีสินเดิม ให้หักสินเดิมจากทรัพย์ที่ว่าเป็นของนายทอง เหลือสมรสเท่าไร เป็นของจำเลยกึ่งหนึ่งอีกกึ่งหนึ่งเป็นกองมรดก ให้หักเงิน 1,000 บาท จากกองมรดกใช้หนี้นายเตื่อย ให้โจทก์ได้รับมรดก 1 ใน 11 ส่วน ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่มีสินเดิมเงินกู้มาทำศพไม่ได้รับความยินยอมจากทายาทพิพากษาแก้ ให้ยกข้อที่เอาสินสมรสใช้สินเดิม และข้อที่เอามรดกใช้หนี้นายเตื่อย 1,000 บาท ในการแบ่งทรัพย์สินสมรสให้จำเลยได้ 1 ส่วน ของนายทองได้ 2 ส่วน สินสมรสและสินเดิมของนายทองให้โจทก์ได้รับ 1 ใน 11 ส่วน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เงินที่จำเลยกู้นายเตื่อยมาทำศพนายทองนั้นเป็นจำนวนที่ไม่เกินสมควรแล้วก็ควรให้หักจากกองมรดกได้ เพราะจำเลยเป็นผู้จัดการปลงศพนายทอง มีสิทธิทำได้ตามที่เห็นสมควรหาจำต้องปรึกษาให้ได้รับความยินยอมจากทายาทเสียก่อนไม่
พิพากษาแก้ ให้หักกองมรดกใช้หนี้นายเตื่อยเสียก่อนแบ่งนอกนั้นยืนตาม