แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บุตรผู้ถูกทำร้ายตาย+จะมีสามีแล้ว ก็มีสิทธิเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาหรือเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยยการในคดีที่ฟ้องผู้ที่ทำให้ตายได้ ตาม ป.วิ.อาญามาตรา 3(2) และมาตรา 5(2) การที่ภรรยาผู้ถูกทำร้ายตายไม่ขอร่วมเป็นโจทก์กับอัยยการ ไม่ทำให้สิทธิของบุตรผู้ตายดังกล่าวแล้วเสียไป
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้ปืนยิงและใช้มีดแทงผู้ตายตาย แต่ทางพิจารณาได้ความชัดว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายอย่างเดียวนั้นไม่เป็นเหตุพอจะให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้ และคดีก็ต้องลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 252, 259
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่านายเต๊ะ โพธิ์ศรีทอง ตายโดยเจตนา นางเหลื่อม โพธิ์ศรีทอง บุตรนายเต๊ะขอเป็นโจทก์ร่วมด้วยศาลอนุญาตแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ มีกำหนด ๒๐ ปี
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกา ฟ้องข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นผู้ใช้มีดแทงนายเต๊ะถึงแก่ความตาย ส่วนข้อกฏหมายเห็นว่า แม้นางเหลื่อมจะเป็นเพียงบุตรนายเต๊ะ และมีสามีนางเหลื่อมก็มีสิทธิเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาหรือเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยยการได้ตาม ป.วิ.อาญามาตรา ๓(๒) และมาตรา ๕(๒) การที่นางเสงี่ยมภรรยานายเต๊ะ ไม่ขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับอัยยการนั้นไม่ทำให้สิทธิของนางเหลื่อมเสียไป
การที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้ปืนยิงและใช้มีดแทงนายเต๊ะ แต่พยานโจทก์เบิกความยืนยันว่า จำเลยใช้มีดแทงนายเต๊ะอย่างเดียว นั้นไม่เป็นเหตุพอจะให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้ และเมื่อทางพิจารณาได้ความชัดว่า จำเลยเป็นผู้ใช้มีดแทงนายเต๊ะถึงแก่ความตาย คดีก็ต้องลงโทษ+กฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืน