คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานมีข้าวไว้ในครอบครองในเขตห้ามกักกันข้าวโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าวพ.ศ.2489.ฟ้องต้องได้ความว่า ได้มีประกาศคณะกรรมการกำหนดเวลาให้ผู้มีข้าวเกินปริมาณมาแจ้ง และจำเลยทำฝ่าฝืนประกาศนั้นจึงจะมีผิด
ฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวถึงประกาศของคณะกรรมการและมิได้ยื่นสำเนาประกาศมาท้ายคำฟ้อง ซึ่งพอจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฟ้อง ดังนี้ ถือว่า ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีข้าวสารหนัก 1,080 กิโลกรัมไว้ในครอบครองในเขตห้ามกักกันข้าวโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. 2489 จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นลงโทษตามฟ้อง แต่ให้ริบข้าวของกลางซึ่งเกินปริมาณที่กฎหมายอนุญาตจำนวน 68 กิโลกรัม

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบข้าวของกลางทั้งหมด

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ยังลงโทษจำเลยไม่ได้ แม้จำเลยไม่อุทธรณ์ แต่คดีเกี่ยวด้วยข้อกฎหมายและความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลยกขึ้นวินิจฉัยได้ พิพากษากลับยกฟ้องโจทก์ ข้าวของกลางคืนจำเลย

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างต้องได้ความว่าได้มีประกาศคณะกรรมการกำหนดเวลาให้ผู้มีข้าวเกินปริมาณมาแจ้งและจำเลยได้ฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการแล้ว คดีนี้โจทก์มิได้กล่าวถึงประกาศคณะกรรมการแต่ประการใด ทั้งมิได้ยื่นสำเนาประกาศมาท้ายคำฟ้อง ซึ่งพอจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฟ้อง เมื่อเป็นเช่นนี้ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้

พิพากษายืน

Share