แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินซึ่งเป็นสินบริคณห์โฉนดมีชื่อสามีภริยา ภริยาเอาไปโอนขายแต่ผู้เดียว สามีมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนได้
ย่อยาว
ได้ความว่า โจทก์และนางปุ๋ยภริยาโจทก์มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดร่วมกัน นางปุ๋ยตายจึงปรากฏว่าได้มีการมอบฉันทะให้จำเลยที่ 2 โอนส่วนของนางปุ๋ยให้จำเลยที่ 1 โดยมิได้มีหลักฐานการยินยอมเป็นหนังสือจากโจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ทราบแล้วไม่คัดค้านหรือบอกล้างใน 1 ปี
ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน พิพากษาว่า การกระทำของนางปุ๋ยผิดแบบเป็นโมฆะ ให้เพิกถอนการโอน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องผิดแบบ เป็นเรื่องความสามารถของบุคคล ภริยาจำหน่ายเฉพาะส่วนของตนได้ การไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์เป็นหนังสือเป็นเรื่องโมฆียะกรรม ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ในประเด็นเรื่องโจทก์ไม่บอกล้างใน 1 ปี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ภรรยาหามีอำนาจจำหน่ายสินบริคณห์ไม่ สินบริคณห์มีเอกสารลงชื่อสามีภริยาต้องเข้าชื่อด้วยกันทั้งสองคน จึงจะจำหน่ายสินบริคณห์ได้ เมื่อปรากฏว่าการจำหน่ายสินบริคณห์รายนี้เป็นการกระทำของนางปุ๋ยคนเดียว มิได้มีชื่อโจทก์เป็นผู้ร่วมในการจำหน่ายด้วย จึงใช้ไม่ได้ตามกฎหมาย ไม่ต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
พิพากษากลับ ให้เพิกถอนการโอนตามศาลชั้นต้น