คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1687/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญา ขอให้บังคับ จำเลยต่อสู้ว่า ข้อสัญญามิได้เป็นดังโจทก์อ้าง แต่เป็นดังที่จำเลยต่อสู้ โจทก์ทำผิดสัญญา จึงฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหาย ดังนี้ เรียกว่า จำเลยปฏิเสธฟ้องของโจทก์ทุกข้อโจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน
ศาลชั้นต้นกะหน้าที่นำสืบผิดโดยให้จำเลยสืบก่อนแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยไม่รับวินิจฉัยพยานจำเลยเสียเลย ศาลอุทธรณ์เห็นว่าที่ศาลชั้นต้นไม่รับวินิจฉัยพยานจำเลยนั้นไม่ชอบ และที่ศาลชั้นต้นกะหน้าที่นำสืบให้จำเลยสืบก่อนก็ไม่ชอบ ดังนี้ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยใหม่แล้วพิพากษาตามรูปคดี โดยถือว่า โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยขายเมล็ดข้าวโพดแก่โจทก์ตามสัญญาหรือขอให้ใช้ค่าเสียหาย

จำเลยต่อสู้ว่า ข้อสัญญาเป็นตามที่จำเลยต่อสู้ มิได้เป็นดังโจทก์อ้าง และโจทก์ผิดสัญญา จึงฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหาย

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีและให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยโดยถือว่าจำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลชั้นต้นไม่รับวินิจฉัยคำพยานจำเลยคงรับวินิจฉัยแต่คำพยานโจทก์แต่ฝ่ายเดียว ยังไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา จึงพิพากษาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยใหม่แล้วพิพากษาตามรูปคดีโดยถือว่าโจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน

โจทก์ฎีกาว่า จำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นในเรื่องหน้าที่นำสืบไว้ จะยกขึ้นโต้เถียงไม่ได้

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน เพราะจำเลยปฏิเสธฟ้องโจทก์ทุกข้อ ศาลอุทธรณ์พิพากษาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยใหม่ และพิพากษาตามรูปคดีนั้น เป็นเพราะศาลชั้นต้นไม่ยอมรับวินิจฉัยหลักฐานพยานของจำเลยให้เสียเลยต่างหาก หาใช่เพราะเรื่องหน้าที่นำสืบไม่ ศาลอุทธรณ์หาได้พิพากษา ให้ดำเนินการสืบพยานกันใหม่โดยกลับหน้าที่นำสืบแต่ประการใดไม่ ถ้อยคำพยานหลักฐานอันมีอยู่แล้วเพียงใด ก็ยอมรับวินิจฉัยไปตามนั้นมิได้กระทบกระเทือนถึงการพิจารณาของศาลชั้นต้นที่ดำเนินมาแล้วแต่อย่างใดไม่ ข้อคัดค้านของโจทก์จึงตกไป

พิพากษายืน

Share