คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1308/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นำสุกรออกนอกเขตจังหวัดภาคเหนือโดยทางรถไฟ จะไปยังจังหวัดพระนครซึ่งเป็นจังหวัดภาคกลาง อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร และฝ่าฝืนประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการเรื่องกำหนดเส้นทางให้พาสัตว์ที่จะเดินทางเข้าไปในท้องที่จังหวัดภาคกลางนั้น เมื่อถูกจับในขณะที่ควบคุมสุกรขึ้นบรรทุกตู้รถไฟที่สถานีต้นทางก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนขบวนจากสถานีต้นทาง เพื่อไปสถานีปลายทาง ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 มาตรา 8,17 พ.ร.บ.โรคระบาดปสุสัตว์และสัตว์พาหนะ2474 มาตรา 10,16 ฐานพยายาม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ ได้ความว่าจำเลยบังอาจพาสุกรมีชีวิต 30 ตัว ออกจากเขตจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นจังหวัดภาคเหนือโดยทางรถไฟจะไปยังจังหวัดพระนคร ซึ่งเป็นจังหวัดภาคกลางเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรประจำจังหวัดพิจิตร และฝ่าฝืนประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ เรื่องกำหนดเส้นทางให้พาสัตว์ที่เดินทางเข้าไปในท้องที่จังหวัดภาคกลาง

ขณะที่จำเลยควบคุมการขนส่งสุกรขึ้นบรรทุกตู้รถไฟที่สถานีสะพานหิน เจ้าหน้าที่ตรวจพบจึงได้จับจำเลยเสียก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนจากสถานีสะพานหิน เพื่อไปสถานีกรุงเทพฯ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 พระราชบัญญัติโรคระบาดปศุสัตว์และสัตว์พาหนะ 2474

ศาลชั้นต้น, ศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 มาตรา 8, 17, 29 พระราชบัญญัติโรคระบาดปศุสัตว์และสัตว์พาหนะ พ.ศ. 2474 มาตรา 10, 16 กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 60 ลงโทษตามบทหนักคือ พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 มาตรา 8, 17

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดแล้วแต่หากสุกรที่จำเลยจะนำออกนั้นยังอยู่ในเขตจังหวัดพิจิตรขบวนรถยังไม่เคลื่อน จึงเป็นผิดฐานพยายาม แต่ที่ศาลล่างพิพากษาให้ริบของกลางด้วยมิชอบตามแบบอย่างฎีกาที่ 201/2493

จึงพิพากษาแก้เฉพาะข้อริบของกลางเป็นว่า ไม่ริบของกลาง

Share