แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเรียกเก็บเงินจากผู้เสียหาย 7 ครั้งในเวลา 1 ปีกับเข้าหุ้นฟรีอีก 600 บาทแต่ไม่บอกว่าเรียกรับเงินไปครั้งแรกและครั้งถัดๆไปในราวเดือนอะไรบ้างทั้งเงิน 600 บาทค่าหุ้นฟรี จำเลยรับไปเมื่อไรก็ไม่บอก ดังนี้เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า เมื่อวันเวลาใดไม่ปรากฏชัด คือระหว่างตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2491 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2491 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน จำเลยบังอาจใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายได้เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมขออนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันไพ่เผจากนางส้มเกลี้ยง7 ครั้ง โดยเรียกเก็บเกินกว่าที่ควรจะเรียกเก็บครั้งละ 100 บาท รวมเป็นเงิน 700 บาท และเข้าหุ้นในการเล่นการพนันนั้นกับนางส้มเกลี้ยงโดยเรียกหุ้นฟรี 600 บาท จำเลยได้รับเงิน 1,300 บาท แล้วมิได้นำส่งรัฐบาล จำเลยยักยอกเอาเงินเป็นประโยชน์ของจำเลยเสีย ขอให้ลงโทษคืนหรือใช้เงิน 1,300 บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยว่าฟ้องเคลือบคลุม
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ว่า จำเลยเรียกเอาเงินจากนางส้มเกลี้ยง 7 ครั้ง ในเวลา1 ปี กับเข้าหุ้นฟรีอีก 600 บาท ไม่บอกว่า เรียกรับเงินไปครั้งแรกและครั้งถัด ๆ มาในราวเดือนอะไรบ้าง ทั้งเงิน 600 บาท ค่าหุ้นฟรีจำเลยรับไปเมื่อไรก็ไม่บอก ถ้าจะบอกแน่นอนไม่ได้ ก็ควรจะบอกโดยประมาณ ที่โจทก์กล่าวหาจำเลยเป็นเวลาถึง 1 ปี เช่นนี้กว้างขวางมาก ยากที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาและต่อสู้คดีได้ ทั้งนายสว่างจำเลยให้การต่อสู้คดีว่า เพิ่งมารับราชการตำแหน่งปลัดอำเภอเมืองขอนแก่น วันที่ 2 มีนาคม2491 ซึ่งโจทก์กล่าวหาเรื่องนี้ก่อนนายสว่างจำเลยมารับตำแหน่งถึง 2 เดือนฟ้องโจทก์ไม่แน่นอน และเคลือบคลุม
จึงพิพากษายืน