คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีภรรยาเป็นเจ้าของทรัพย์ร่วมกันจึงร่วมกันทำพินัยกรรมฉบับเดียวกันยกทรัพย์ให้หลานนั้น เป็นการขัดกับ พระราชบัญญัติว่าด้วยการทำพินัยกรรม 2475 มาตรา 23 ที่ว่า ‘บุคคลสองคนหรือมากกว่านั้นจะทำพินัยกรรมโดยเอกสารฉบับเดียวกันไม่ได้’
สามีภรรยาร่วมกันทำพินัยกรรมฉบับเดียวกันยกทรัพย์หลายอย่างให้หลาน รวมทั้งโจทก์ด้วย สำหรับโจทก์ได้ที่ดินและตึกภายหลังสามีผู้เดียวทำพินัยกรรมฉบับหลัง เพิกถอนข้อความในพินัยกรรมเดิมบางข้อในข้อที่ยกทรัพย์ให้หลานอื่นบางคน แล้วมีข้อความว่า ส่วนข้อความอื่นๆ ในพินัยกรรมนั้นคงเป็นไปตามเดิมดังนี้ เมื่อพินัยกรรมฉบับแรกไม่สมบูรณ์เพราะต้องห้ามตาม พระราชัญญัติว่าด้วยการทำพินัยกรรม 2475 แล้วก็ต้องถือว่าไม่มีการยกที่ดินและตึกให้โจทก์ด้วย ส่วนพินัยกรรมฉบับหลังแม้จะสมบูรณ์ก็ไม่มีข้อความว่าได้ยกที่ดินและตึกให้โจทก์ เป็นแต่กล่าวว่าส่วนข้อความอื่นๆ ในพินัยกรรมนั้นคงเป็นไปตามเดิม ซึ่งเมื่อพินัยกรรมเดิมใช้ไม่ได้แล้ว จะอ้างข้อความในเอกสารอื่นซึ่งมิใช่พินัยกรรมมาเป็นส่วนหนึ่งของพินัยกรรมจึงไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้ที่ดินและตึก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าที่ดิน เรือนตึก ราคาประมาณ 40,000 บาท เป็นของนายไพโรจน์ (โจทก์) โดยนายบุนเลี่ยม นางเบี่ยว ได้ทำพินัยกรรมให้ตามสำเนาพินัยกรรม ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2476 และสำเนาพินัยกรรมลงวันที่ 23 มีนาคม 2486 นางเบี่ยวตายก่อนนายบุนเลี่ยม ๆ ตายเมื่อ3 ปีมานี้ ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอขายที่ดินและตึกรายนี้จำเลยผู้อาศัยอยู่คัดค้านว่า เป็นตึกของจำเลย ศาลสั่งให้จำเลยฟ้องจำเลยก็ไม่ฟ้อง ครั้นเมื่อศาลสั่งให้โจทก์ขายที่ดินเรือนตึกได้จำเลยไปคัดค้านที่อำเภออีก ทำให้โจทก์ขายให้แก่ผู้ซื้อไม่ได้ภายในกำหนดสัญญาโจทก์ต้องใช้ค่าปรับเป็นค่าเสียหายแก่ผู้ซื้อ 5,000 บาท จึงขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินเรือนพิพาทกับให้ใช้ค่าเสียหาย 5,000 บาท

จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์และอ้างว่าพินัยกรรมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ดินและตึกเป็นของโจทก์ เว้นแต่ตึกที่จำเลยก่อสร้างขึ้นจึงให้ขับไล่จำเลย

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ตึกที่จำเลยก่อสร้างขึ้นเป็นของโจทก์ด้วย โดยตกเป็นส่วนควบ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า พินัยกรรมฉบับแรกที่ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2476 มีชื่อนายบุนเลี่ยม นางเบี่ยวสองคนเป็นเจ้าของทรัพย์ผู้ทำพินัยกรรมขัดกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการทำพินัยกรรม 2475 มาตรา 23 ซึ่งบัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า “บุคคลสองคนหรือมากกว่านั้นจะทำพินัยกรรมโดยเอกสารฉบับเดียวกันไม่ได้” เอกสารฉบับที่กล่าวจึงไม่เป็นพินัยกรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย ผลจึงเท่ากับว่าไม่มีพินัยกรรมฉบับแรกเลยส่วนพินัยกรรมฉบับหลังมีชื่อนายบุนเลี่ยมเป็นผู้ทำพินัยกรรมผู้เดียวจึงไม่ต้องห้าม แต่พินัยกรรมฉบับหลังหาได้มีข้อความว่าได้ยกที่ดินและตึกพิพาทให้แก่ใครไม่ เป็นแต่กล่าวว่าส่วนข้อความอื่น ๆ ในพินัยกรรมนั้นคงเป็นไปตามเดิม เมื่อพินัยกรรมฉบับแรกไม่เป็นพินัยกรรมตามกฎหมายแล้วจะอ้างข้อความในพินัยกรรมฉบับแรกจึงไม่ได้ ผลจึงเป็นว่าไม่ได้มีการให้ที่ดินและตึกแก่นายไพโรจน์จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง

Share