คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

รับของโจรในเขตจังหวัดหนึ่ง แต่จับของกลางได้ในอีกจังหวัดหนึ่งถือว่า ความผิดฐานรับของโจรกระทำผิดสำเร็จในจังหวัดที่รับของโจรและไม่ถือว่าเป็นความผิดต่อเนื่องกัน เมื่อฟ้องโจทก์ระบุว่า เหตุเรื่องรับของโจรเกิดในเขตจังหวัดที่จับของกลางได้ ถือว่า ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับฟ้อง ต้องยกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องกล่าวว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนร้ายลักเครื่องเรือยนต์ของห้างหุ้นส่วนโรงน้ำแข็งรองเมืองซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของ ส. ไป เหตุเกิดตำบลวัดท่าพระ กิ่งอำเภอบางกอกใหญ่ จังหวัดธนบุรีจำเลยที่ 2 ได้บังอาจรับเอาส่วนเครื่องประกอบของเครื่องยนต์ที่จำเลยที่ 1 ลัก โดยรู้ว่าเป็นของร้าย เหตุเกิดที่ตำบลท่าฉลอมอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร จำเลยที่ 1 รับสารภาพ จำเลยที่ 2 ให้การตัดฟ้องว่า ฟ้องเคลือบคลุมและปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิด

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ 2 ได้รับทรัพย์ของกลางไว้จากจำเลยที่ 1 โดยรู้ว่าเป็นของร้ายจริงแต่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เอาของไปให้จำเลยที่ 2 ในเขตจังหวัดธนบุรี ฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 2 ระบุว่าเหตุเกิดในจังหวัดสมุทรสาคร ข้อเท็จจริงจึงต่างกับฟ้องพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1 สี่เดือน ลดกึ่งแล้ว และรอการลงอาญาให้คืนใช้ราคาทรัพย์ ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลล่างฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 2 รับของโจรทรัพย์รายนี้ภายในเขตจังหวัดธนบุรี แต่ตามฟ้องกล่าวว่าเหตุเกิดตำบลท่าฉลอม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งความจริงเป็นสถานที่จับของกลางรายนี้ได้ ความผิดฐานรับของโจรตามฟ้องเกิดสำเร็จบริบูรณ์ แล้วเมื่อรับของกลางนั้นไว้ ส่วนการที่จำเลยที่ 2 ครอบครองทรัพย์นั้นอยู่ตลอดจนนำมาเก็บไว้ที่ตำบลท่าฉลอมจังหวัดสมุทรสาครนั้น เป็นพฤติการณ์ภายหลังแต่เกิดการกระทำผิดสำเร็จแล้ว กรณีเช่นนี้จะถือว่าเป็นความผิดต่อเนื่องกันหาได้ไม่

พิพากษายืน

Share