คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1168/2546

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้ป้ายข้อความยินดีรับบัตร SYNERGY โลโก้ESSOและเครื่องหมายลูกศรบอกทางเข้าซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณทางเข้าสถานีบริการน้ำมันของโจทก์จะอยู่ในกรอบพลาสติกนูน แยกขอบเขตของแต่ละป้ายได้ แต่ก็อยู่ในโครงเหล็กแผ่นเดียวกันถือว่าเป็นป้ายแผ่นเดียวกัน โดยป้ายดังกล่าวโจทก์ทำขึ้นเพื่อเชิญชวนลูกค้าซึ่งเป็นสมาชิกบัตรSYNERGY เข้าใช้บริการของโจทก์ จึงเป็นการใช้ป้ายดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาและหารายได้ ถือเป็นป้ายตามคำนิยามศัพท์ มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้ายฯ อันต้องเสียภาษีป้ายตามขนาดของป้าย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด โจทก์มอบอำนาจให้นายมนูญ ลิ้มสมวงศ์ และ/หรือ จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลโดยเป็นคณะผู้บริหารราชการส่วนท้องถิ่นประกอบด้วยคณะเทศมนตรี มีอำนาจจัดเก็บภาษี โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นนายกเทศมนตรี พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ได้แจ้งประเมินภาษีป้ายและเงินเพิ่ม ซึ่งเป็นสถานีบริการน้ำมันของโจทก์ รวมทั้งสองครั้งเป็นเงินทั้งสิ้น 68,267 บาท โจทก์จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อจำเลยที่ 2 ต่อมาจำเลยที่ 2 วินิจฉัยยืนตามการแจ้งประเมินโจทก์ไม่เห็นด้วยกับการแจ้งประเมินภาษีและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ขอให้เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแจ้งการประเมินภาษีป้ายและคำวินิจฉัยอุทธรณ์กับให้จำเลยที่ 1 คืนเงินค่าภาษี 18,276 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระต้นเงินให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น

จำเลยทั้งสองให้การว่า การประเมินภาษีป้ายและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ถูกต้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินค่าภาษีป้ายและเงินเพิ่มของพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 เฉพาะป้ายที่มีข้อความว่า “ESSO” “เอสโซ่ ESSO” “เอสโซ่ ESSO ได้ฟรี มีลุ้นกับเอสโซ่ เทอร์โบสปีด””เติมหัวใจใส่หัวจ่าย ภาพเสือ ESSO” “เติมเอสโซ่ 300 บาท ขึ้นไปด้วยบัตรไดเนอร์สคลับรับฟรีโพสต์อิทโน้ท 15 พ.ค. 2543 – 15 ส.ค. 2543” “ประกาศนียบัตรรับรองคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง ขอมอบประกาศนียบัตรฉบับนี้ไว้เพื่อแสดงว่าสถานีบริการไทย ซี -เซ็นเตอร์ (อ้อมน้อย) —ESSO” และ “ซูพรีม 95 ซูพรีม 91 ดีเซล” ให้จำเลยที่ 1 คืนเงินค่าภาษีป้ายจำนวน 17,556 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า ป้ายที่มีข้อความว่า “ยินดีรับบัตร SYNERGY โลโก้ ESSO และเครื่องหมายลูกศรบอกทางเข้า” ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณทางเข้าสถานีบริการน้ำมันของโจทก์นั้นเป็นป้ายอันต้องเสียภาษีตามขนาดของป้ายโดยถือเอาความกว้างที่สุดคูณด้วยส่วนยาวที่สุดของขอบเขตป้าย ตามที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาหรือไม่ โดยโจทก์อุทธรณ์ว่า ป้ายเครื่องหมายลูกศรบอกทางเข้าสถานีบริการน้ำมันของโจทก์สามารถแยกส่วนกันได้อย่างชัดเจนกับป้ายที่มีข้อความว่ายินดีรับบัตร SYNERGY โลโก้ ESSO โดยแต่ละป้ายอยู่ในกรอบพลาสติกนูน แยกขอบเขตแต่ละป้ายอย่างชัดเจนปรากฏตามภาพถ่ายหมาย จ.1 แผ่นที่ 15 ถึงแม้ป้ายทั้งสองดังกล่าวจะอยู่ภายในโครงเหล็กเดียวกัน แต่ก็อยู่คนละกรอบหรือช่อง จึงมิใช่ป้ายเดียวกัน หากถอดป้ายเครื่องหมายลูกศรบอกทางเข้าทิ้งไป ก็ไม่ทำให้ป้ายยินดีรับบัตรเสียหายหรือขาดใจความแต่อย่างใด ดังนั้น ป้ายเครื่องหมายลูกศรบอกทางเข้าจึงไม่มีส่วนสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับป้ายยินดีรับบัตร SYNERGY โลโก้ ESSO และไม่ต้องเสียภาษีป้ายตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. 2510 เนื่องจากป้ายเครื่องหมายลูกศรบอกทางเข้ามิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาหรือหารายได้ เป็นเพียงป้ายบอกเส้นทางจราจรเท่านั้น เห็นว่า พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. 2510 มาตรา 6 บัญญัติว่า “ป้าย”หมายความว่า ป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะได้แสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทำให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น” ดังนั้น แม้ป้ายข้อความยินดีรับบัตร SYNERGY โลโก้ ESSO และเครื่องหมายลูกศรบอกทางเข้าซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณทางเข้าสถานีบริการน้ำมันของโจทก์จะอยู่ในกรอบพลาสติกนูนแยกขอบเขตของแต่ละป้ายได้ แต่ก็อยู่ในโครงเหล็กแผ่นเดียวกัน ถือว่าเป็นป้ายแผ่นเดียวกัน โดยป้ายดังกล่าวโจทก์ทำขึ้นเพื่อเชิญชวนลูกค้าซึ่งเป็นสมาชิกบัตร SYNERGY เข้าใช้บริการของโจทก์ จึงเป็นการใช้ป้ายดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาและหารายได้ ถือเป็นป้ายตามคำนิยามศัพท์ มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. 2510 อันต้องเสียภาษีป้ายตามขนาดของป้าย โดยคำนวณตามความกว้างที่สุดคูณด้วยส่วนยาวที่สุดของขอบเขตป้าย ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษามานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share