คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้ไปแจ้งทะเบียนสำมะโนครัวว่าเป็นบุตรและใช้นามสกุลของบิดา และบิดาได้อุปการะบุตรมาอันเป็นพฤติการณ์ที่รู้อยู่กันทั่วไปดังนี้ได้ชื่อว่าบิดาได้รับรองแล้ว และถือได้ว่าเป็นผู้สืบสันดานของบิดาและมีสิทธิรับมรดกแทนที่บิดาได้
แม้คดีจะขาดอายุความมรดกแล้วแต่ทายาททำสัญญาประนีประนอมแบ่งทรัพย์มรดกแก่กัน สัญญานั้นย่อมใช้บังคับได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า จำเลยทั้งสองไม่ใช่ทายาทโดยชอบธรรมของนายมานสามีโจทก์ ไม่มีสิทธิรับมรดกแทนที่นายเคที่พิพาท 2 แปลงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องขัดขวางในการจดทะเบียน

จำเลยให้การว่า นางแมะและนายเคบิดามารดาจำเลย เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่พิพาทเป็นสินสมรสระหว่างนายมานกับโจทก์ซึ่งเป็นบิดามารดาของนายเดก่อนตายนายมานได้พูดยกที่ดินให้จำเลยทั้งสองคนละ 10 ไร่ นายมานตายแล้ว จำเลยได้ปกครองร่วมกับโจทก์เมื่อ พ.ศ. 2493 โจทก์ทำสัญญายอมแบ่งที่ดินให้จำเลยคนละ 10 ไร่ จำเลยมีสิทธิได้รับที่ดินตามสัญญายอม

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ทางพิจารณาได้ความว่านางแมะและนายเดสมรสกันภายหลังใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แต่ไม่ได้จดทะเบียน จำเลยทั้งสองจึงเป็นบุตรนอกกฎหมายของนายเด แต่เมื่อจำเลยทั้งสองเกิดได้7 วัน นายเดได้ไปแจ้งทะเบียนสำมะโนครัวว่าเด็กทั้งสองเป็นบุตรและใช้นามสกุลของนายเด และนายเดได้อุปการะเลี้ยงดูเด็กทั้งสองมา อันเป็นพฤติการณ์ที่รู้อยู่กันทั่วไปได้ชื่อว่านายเดได้รับรองแล้วว่า จำเลยทั้งสองเป็นบุตรถือได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้สืบสันดานของนายเด มีสิทธิได้รับมรดกแทนที่นายเดได้ และฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ทำสัญญาประนีประนอมกับจำเลย เรื่องแบ่งที่ดินรายพิพาทนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยได้

พิพากษายืน

Share