คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มารดาทำพินัยกรรม์ยกทรัพย์สมบัติของตนให้แก่บุตร และให้ป้าเป็นผู้ดูแลไว้จนกว่าบุตรจะบรรลุนิติภาวะ นั้นต่อมามารดาตาย บุตรจึงอยู่ในความปกครองของป้าต่อมาดังนี้ เมื่อปรากฏว่าเด็กนั้นยังมีบิดาอยู่บิดาย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกบุตรคืนมาอยู่ในความปกครองของตนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยส่งเด็กชายบุญส่งบุตรโจทก์ให้แก่โจทก์ ห้ามจำเลยใช้อำนาจปกครองเด็กต่อไป

จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง ฯลฯ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยส่งตัวเด็กชายบุญส่งให้แก่โจทก์และไม่ให้จำเลยใช้อำนาจปกครองเด็กชายบุญส่งต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ได้ความว่าโจทก์เป็นบิดาเด็กชายบุญส่งโดยทำการสมรสกับนางต้อย ต่อมาโจทก์กับนางต้อยหย่าขาดจากสามีภริยากันแล้ว นางต้อยจึงคลอดบุตรชายคนหนึ่งคือเด็กชายบุญส่ง ต่อมานางต้อยได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินรวม 4 โฉนดให้แก่เด็กชายบุญส่งโดยระบุชัดว่าเด็กชายบุญส่งบุตรของตนเกิดด้วยนายประเสริฐ ข้อความในพินัยกรรมระบุไว้ว่า ในระหว่างเด็กชายบุญส่งอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะให้นางเต็มป้าเป็นผู้ดูแลหาผลประโยชน์ให้แก่เด็กชายบุญส่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ต่อไป เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว ให้นางเต็มโอนที่นานั้นให้แก่เด็กชายบุญส่งปกครองกรรมสิทธิ์ต่อไป หลังจากทำพินัยกรรมแล้วต่อมานางต้อยก็ตาย เด็กชายบุญส่งคงอยู่ในความปกครองของจำเลยผู้เป็นป้า โจทก์ขอให้ส่งตัวเด็กชายบุญส่งแก่โจทก์ แต่จำเลยไม่ยอมส่งอ้างว่าจำเลยเป็นผู้ปกครองเด็กโดยชอบ

ศาลฎีกาเห็นว่า พินัยกรรมมุ่งหมายถึงเรื่องการดูแลปกครองทรัพย์ของเด็กมากกว่า และแม้จะฟังว่านางต้อยได้ตั้งจำเลยเป็นผู้ปกครองด้วยก็ดี เมื่อปรากฏว่าโจทก์ผู้เป็นบิดาเด็กยังอยู่ และยังมิได้ถูกถอนอำนาจปกครอง พินัยกรรมข้อนี้ก็หามีผลไม่ เพราะนางต้อยมิใช่ผู้ตายทีหลัง และตามกฎหมายบิดาเป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ ฯลฯ

จึงพิพากษายืน

Share