แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยรับซื้อปืนซึ่งมีผู้ลักลอบนำเข้ามาโดยมิได้เสียภาษีศุลกากรแม้จำเลยจะรู้ว่าปืนนั้นเป็นปืนหนีภาษีก็ดี ก็ไม่เป็นผิดฐานลักลอบหนีภาษีตาม พระราชบัญญัติศุลกากร และจะถือเป็นความผิดฐานสมรู้ก็ไม่ได้ เพราะพระราชบัญญัติศุลกากรมิได้เอาโทษฐานสมรู้ไว้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับซื้ออาวุธปืนและกระสุนไว้จากผู้มีชื่อ ซึ่งได้ลอบนำมาจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าภาษีและผ่านศุลกากรตามกฎหมาย จำเลยซื้อไว้โดยรู้ว่าเป็นของลักลอบนำเข้ามาโดยไม่ได้เสียภาษี ทั้งนี้จำเลยมีเจตนาที่จะช่วยเหลือหรือหลีกเลี่ยงการเสียค่าภาษีอากร และจำเลยได้มีอาวุธปืนกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากร พระราชบัญญัติอาวุธปืน และริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ศาลชั้นต้นให้ปรับจำเลยในความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีตามพระราชบัญญัติศุลกากรด้วย
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469มาตรา 27 แก้ไขเพิ่มเติม 2482 มาตรา 6 บัญญัติเป็นผิดเฉพาะแต่การกระทำซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษี หรือการเกี่ยวข้องประการใด ๆ ในการ “หลีกเลี่ยง” เช่นนั้นโดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีรัฐบาล คดีนี้ โจทก์บรรยายฟ้องว่าปืนของกลางนั้นได้มีผู้ลอบนำเข้ามาแล้วโดยไม่ได้เสียภาษีแล้วจำเลยจึงรับซื้อไว้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการเกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงภาษีแต่อย่างใด กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเมื่อจำเลยรับซื้อไว้ แม้โดยรู้ว่าเขาหลีกเลี่ยงภาษีมาแล้วก็ตาม ก็เป็นเพียงการช่วยเหลือภายหลังการกระทำผิด หรือเป็นการสมรู้ภายหลังการกระทำผิด เมื่อไม่มีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดก็เอาโทษแก่จำเลยมิได้ จำเลยจึงยังไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนแต่กระทงเดียว
