คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เท่าที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าจำเลยเอาตราแสดงกรรมสิทธิของตนตีลงบนท่อนไม้ของผู้อื่นเพื่อเอากรรมสิทธินั้น เมื่อประกอบกับข้อเท็จจริง ซึ่งจะได้ความในชั้นพิจารณาแล้ว อาจเป็นเหตุให้เห็นได้ว่า การกระทำดังนี้ เป็นการลักทรัพย์ได้สมควรรับฟ้องไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปความ

ย่อยาว

ฟ้องโจทก์มีความว่า วันใดไม่ปรากฎชัด ระหว่างวันที่ ๕ ถึงวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๔๘๗ เวลากลางวัน จำเลยได้มีเจตนาตั้งใจลักท่อนไม้ของนายวงศ์ แสนศิริพันธ์ได้บังอาจใช้ตรา “นั่งได้” อันเป็นตราแสดงกรรมสิทธิในไม้ของจำเลย ตีประพันลงบนท่อนไม้ของนางวงศ์ ๑๐ ท่อนเพื่อแสดงว่าไม้เหล่านั้นเปนของจำเลย ๆ จะได้นำไปเป็นประโยชน์ของตน แต่บังเอิญลูกจ้างของเจ้าทรัพย์มาพบเข้า จำเลยไม่ทันลักเอาไม้ไป ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ตามฟ้องนั้นจำเลยยังมิได้ทำการอย่างใดอื่น นอกเหนือไปจากเอาตรากรรมสิทธิตีประทับบนท่อนไม้ จะเฉียดใกล้ความผิดฐานลักทรัพย์ก็เพียงว่าจำเลยได้แสดงเจตนาจะลักเท่านั้น ยังไม่พอจะฟังได้ว่า “เป็นการเอาไป” อันเป็นองค์ความผิดฐานลักทรัพย์ และยังไม่เข้าใกล้ชิดถึงคั่นพยายามลักทรัพย์ด้วย พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าเท่าที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าจำเลยเอาตราแสดงกรรมสิทธิของตนตีลงบนท่อนไม่เพื่อเอากรรมสิทธินั้น เมื่อประกอบกับข้อเท็จจริงซึ่งจะได้ความต่อไปในชั้นพิจารณา อาจเป็นเหตุให้เห็นว่าการกระทำดั่งนี้เป็นการลักทรัพย์ได้ จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปความ

Share