คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5126/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ในวันที่จำเลยที่ 1 อ้างตนเองเข้าเบิกความต่อศาล ก. ได้นั่งฟังอยู่ในห้องพิจารณาด้วยอันเป็นการผิดระเบียบ แต่เมื่อคำเบิกความของ ก. มีเหตุผลน่าเชื่อฟัง ศาลย่อมฟังคำเบิกความของ ก. เพื่อประกอบการพิจารณาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 114 วรรคสอง
การที่จำเลยทั้งสองนำสืบว่าโจทก์จดทะเบียนให้ที่ดินพิพาทแก่จำเลยทั้งสองเนื่องในโอกาสที่จำเลยทั้งสองสมรสกันเพื่อให้ใช้ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวสืบไปนั้นหาใช่เป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารหลักฐานการจดทะเบียนที่ระบุว่าเป็นการให้โดยเสน่หาไม่ เพราะเป็นการนำสืบให้เห็นถึงมูลเหตุจูงใจที่โจทก์ให้ที่ดินพิพาทแก่จำเลยทั้งสองว่าเป็นการให้เนื่องในโอกาสใด จำเลยทั้งสองจึงมีสิทธินำสืบได้
โจทก์ให้ที่ดินพิพาทแก่จำเลยทั้งสองในการสมรส ดังนั้น ไม่ว่าจำเลยทั้งสองจะได้ประพฤติเนรคุณโจทก์หรือไม่ก็ตาม โจทก์ก็จะฟ้องขอถอนคืนการให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 535(4) ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ยกที่ดินพิพาทแก่จำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองประพฤติเนรคุณโจทก์โดยด่า หมิ่นประมาท และทำร้ายร่างกายโจทก์รวมทั้งบอกปัดไม่อุปการะเลี้ยงดูโจทก์ขณะที่โจทก์เจ็บป่วย เพิกถอนการให้ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองส่งมอบที่ดินพิพาทคืนแก่โจทก์ และให้ไปจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวเป็นชื่อของโจทก์ หากจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสอง

จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ยกที่ดินพิพาทให้จำเลยทั้งสองในการสมรสโจทก์ไม่มีสิทธิถอนคืนการให้ จำเลยไม่เคยประพฤติเนรคุณโจทก์โดยด่า หมิ่นประมาท ทำร้ายร่างกายหรือบอกปัดที่จะไม่อุปการะเลี้ยงดูโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า… สำหรับนายกลม พยานจำเลยทั้งสองปรากฏว่า เป็นพี่ชายของสามีโจทก์และเป็นผู้ไปติดต่อทาบทามจำเลยที่ 2 ให้มาเป็นภริยาของจำเลยที่ 1 ในฐานะญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายเป็นผู้ไม่มีส่วนได้เสียกับคู่ความฝ่ายใด น่าเชื่อว่านายกลมเบิกความไปตามความสัตย์จริง แม้จะปรากฏว่าในวันที่จำเลยที่ 1 อ้างตนเองเข้าเบิกความต่อศาลชั้นต้น นายกลมได้นั่งฟังอยู่ในห้องพิจารณาด้วยอันเป็นการผิดระเบียบ แต่เมื่อคำเบิกความของนายกลมมีเหตุผลน่าเชื่อฟัง ศาลย่อมฟังคำเบิกความของนายกลมเพื่อประกอบการพิจารณาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 114วรรคสอง… ตามพฤติการณ์จึงมีเหตุผลน่าเชื่อตามที่จำเลยทั้งสองนำสืบว่า โจทก์จดทะเบียนให้ที่ดินพิพาททั้งสองแปลงแก่จำเลยทั้งสองเนื่องในโอกาสที่จำเลยทั้งสองสมรสกันเพื่อให้ใช้ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวสืบไป และการที่จำเลยทั้งสองนำสืบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวก็หาใช่เป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารหลักฐานการจดทะเบียนที่ระบุว่าเป็นการให้โดยเสน่หาตามที่โจทก์ฎีกาไม่ เพราะเป็นการนำสืบให้เห็นถึงมูลเหตุจูงใจที่โจทก์ให้ที่ดินพิพาทแก่จำเลยทั้งสองว่าเป็นการให้เนื่องในโอกาสใด จำเลยทั้งสองจึงมีสิทธินำสืบได้ เมื่อคดีฟังได้ว่า โจทก์ให้ที่ดินพิพาททั้งสองแปลงแก่จำเลยทั้งสองในการสมรส ดังนั้น ไม่ว่าจำเลยทั้งสองจะได้ประพฤติเนรคุณโจทก์ดังที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ก็ตามโจทก์ก็จะฟ้องขอถอนคืนการให้ไม่ได้ ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 535(4) ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์มานั้น จึงต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share