แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม มาตรา 321 คนละ4 ปีและปราณีตาม มาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงให้จำคุกไว้ 2 ปีแต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้คนละ 5 ปีนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี ปราณีตาม มาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้คนละ 1 ปีแต่ให้ลงโทษไปที่เดียวเช่นนี้ถือว่าแก้มาก คู่ความฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218,220
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความตามฟ้องและจำเลยทั้ง 2 รับสารภาพว่าจำเลยทั้ง 2 รับโค 1 ตัวไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของร้าย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยตามกฎหมายอาญา มาตรา 321 ให้จำคุกจำเลยคนละ 4 ปี ปรานีตามมาตรา 59 ลดให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 ปี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้คนละ 5 ปี ตามกฎหมายอาญา มาตรา41, 42 ฯลฯ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยไปทีเดียวโดยไม่รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยคนละ 2 ปี ลดโทษปรานีตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 ปี และให้ลงโทษไปทีเดียว นอกจากนี้ยืน
จำเลยทั้ง 2 ฎีกา ซึ่งศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นรับฎีกา เพราะเป็นเรื่องที่ศาลอุทธรณ์แก้มากไม่ต้องห้ามตามมาตรา 218, 220
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงที่จำเลยอ้างเป็นเหตุขอให้รอการลงโทษว่าตาบอดและต้องหาเลี้ยงบุตรนั้นไม่ปรากฏในท้องสำนวนดังข้อที่จำเลยกล่าวอ้างขึ้นมาที่ไหนเลย จึงรับฟังว่าความจริงเป็นดังข้ออ้างของจำเลยไม่ได้
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย