คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินหลายโฉนดแต่ติดต่อเป็นผืนเดียวกัน แต่ละโฉนดเป็นของเจ้าของร่วมสองคน เมื่อศาลเห็นว่าการแบ่งที่ดินอาจทำได้โดยไม่เสียหาย ศาลอาจสั่งให้แบ่งให้เจ้าของร่วมคนหนึ่งได้ที่ดินโฉนดหนึ่งทั้งโฉนด และให้อีกคนหนึ่งได้อีกสองโฉนดก็ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้ากรรมสิทธิ์ที่ดินรวมกัน 4 โฉนดที่ดินทั้งหมดนี้ติดภาระจำนองโจทก์ไม่มีความประสงค์จะมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยต่อไป จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยแบ่งแยกที่พิพาทให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง ถ้าไม่สามารถแบ่งได้ให้ประมูลกันหรือขายทอดตลาด ได้เงินเหลือจากไถ่จำนองแล้วแบ่งให้โจทก์จำเลยคนละส่วน

จำเลยให้การว่ายินดีแบ่งแยกโดยประมูลระหว่างกันเอง

ศาลนัดพร้อมโจทก์ได้ยื่นคำร้องว่าขอให้ศาลแบ่งที่ดินให้ตอนใดที่ไม่ตกลงกันได้ก็ให้ชดใช้ตัวเงินแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 และว่าที่ดินที่พิพาทติดต่อเป็นผืนเดียวกันอาจแบ่งได้เป็นส่วน ๆ ดังนี้คือที่ดินโฉนดที่ 36, 37 มีเนื้อที่รวมกัน 7 ไร่ 3 งาน 79 ตารางวาส่วนหนึ่ง โฉนดที่ 39 มีเนื้อที่ 7 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา อีกส่วนหนึ่ง โจทก์ยินดีให้จำเลยเลือกก่อนว่าจะเอาส่วนไหน ส่วนโฉนดที่ 38 นั้น เมื่อไม่มีทางชดใช้เงินกันได้ก็ขอให้ศาลสั่งแบ่งคนละครึ่งหรือประมูลหรือขายทอดตลาดจำเลยคัดค้านว่าไม่สามารถแบ่งที่พิพาทได้ นอกจากโดยวิธีประมูล เพราะจำเลยลงทุนบำรุงสวนทั้ง 4 โฉนดมากกว่าโจทก์ และถ้ายอมแบ่งคนทำสวน 3 ครอบครัวจะต้องกระจัดกระจาย จำเลยแถลงว่าเมื่อเข้าหุ้นซื้อที่พิพาทแล้วต่างก็หาประโยชน์เอาเองไม่ได้แบ่งกัน ทุนที่ลงไปต่างก็ไม่เรียกร้องกัน

ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้วพิพากษาว่าให้จำเลยเลือกที่ดินก่อนว่าจะเอาโฉนดที่ 36 กับ 37 หรือโฉนดที่ 39 ส่วนโฉนดที่ 38 ให้ประมูลกันเองหรือขายทอดตลาด ฯลฯ ถ้าจำเลยไม่ใช้สิทธิเลือกก็ให้โจทก์เลือกก่อน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าถ้าหากจำเลยไม่ใช้สิทธิเลือกก็ให้โฉนดที่ 39 ตกได้กับโจทก์ เพราะจำเลยรับในคำแถลงการณ์แล้วว่าโจทก์ครอบครองทำประโยชน์ในโฉนดที่ 39 อยู่แล้ว

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาขอที่จำเลยฎีกาดังนี้ (1) ในเรื่องให้แบ่งแยกที่พิพาทนั้น ความจริงตามฟ้องโจทก์ไม่เป็นเช่นที่จำเลยอ้างมาในฎีกาฉะนั้นที่ศาลสั่งให้แบ่งที่ดินกันจึงไม่เป็นการเกินคำขอ

(2) ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 ศาลอาจให้แบ่งที่ดินกันก็ได้ จำเลยไม่มีเหตุผลเพียงพอให้ศาลเห็นว่าจะเป็นการเสียหายถ้าแบ่งกันเช่นนี้

(3) ที่พิพาทมีโฉนดแผนที่แน่นอนแล้ว จึงไม่จำต้องย้อนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาในข้อนี้อีก และจำเลยเป็นฝ่ายเลือกก่อนอยู่แล้วจึงไม่มีอะไรเสียหาย

(4) ที่จำเลยว่าการที่ศาลพิจารณาให้แบ่งที่ดินหลายโฉนดให้เจ้าของรวมคนหนึ่งได้โฉนดหนึ่ง เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งได้อีกสองโฉนดเช่นนี้ เป็นการขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 นั้นข้อนี้จำเลยไม่ยกขึ้นไว้ตั้งแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จึง ไม่มีสิทธิอ้างในชั้นฎีกา แต่อย่างไรก็ดี การที่ศาลแบ่งเช่นนี้ก็หาขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 ไม่ พิพากษายืน

Share