คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่ 2,3 ผู้เยาว์เข้าต่อสู้ทำร้ายกับโจทก์เนื่องจากโจทก์จะเข้าทำร้ายจำเลยที่ 1 ผู้เป็นบิดาขณะที่จำเลยที่ 1 กำลังสาละวนอยู่กับบิดาโจทก์ผู้บุกรุกที่ดินจำเลยโดยไม่มีโอกาสมาสนใจกับการต่อสู้ของโจทก์จำเลยและไม่สามารถจะปฏิบัติอย่างอื่นได้นั้นจำเลยที่ 1 ผู้เป็นบิดาจำเลยที่ 2,3 หาจำต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายร่วมกับจำเลยที่ 2,3 ด้วยไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามสมคบกันใช้มีดไม้ฟันและตีโจทก์ถึงบาดเจ็บสาหัส จำเลยที่ 2, 3 ถูกฟ้องความอาญาศาลลงโทษไปแล้วจำเลยที่ 1 เป็นบิดาผู้ปกครองจำเลยที่ 2, 3 ไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่โจทก์เสียหายจึงขอให้ชดใช้

จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิด โจทก์กับจำเลยที่ 2, 3 เกิดวิวาททำร้ายกันขึ้น จำเลยที่ 1 มิได้สนับสนุนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วโจทก์ไม่เสียหายดังฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหาย 2,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1คงให้จำเลยที่ 2, 3 ร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหาย 500 บาท

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าเหตุเรื่องนี้บังเกิดขึ้นเพราะบิดาโจทก์และโจทก์บุกรุกเข้าไปในที่ดินของจำเลย ๆ มีสิทธิจะขับไล่ การที่จำเลยที่ 2, 3 ได้ต่อสู้กับโจทก์ก็เพราะโจทก์ถืออาวุธจะเข้าทำร้ายจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ก่อความผิดขึ้นก่อนจึงต่อสู้กันขึ้น โจทก์เป็นฝ่ายก่อชนวนแห่งความผิด การกระทำของจำเลยที่ 2, 3 จึงติดตามมา กรณีเป็นที่พิสูจน์ให้เห็นได้ว่าการที่โจทก์กับจำเลยที่ 2, 3 ต่อสู้กันนั้น มิใช่เพราะจำเลยที่ 1 ขาดการใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแล หากเป็นเพราะโจทก์เป็นต้นเหตุทั้งเวลานั้นจำเลยที่ 1ก็มัวสาละวนอยู่กับบิดาโจทก์ผู้บุกรุกไม่ทันมีโอกาสมาสนใจในทางนี้เหตุเกิดโดยปัจจุบัน จำเลยไม่มีโอกาสและไม่สามารถที่จะปฏิบัติเป็นอย่างอื่นให้ดีกว่านี้ได้ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดร่วมด้วยตามมาตรา 429

จึงพิพากษายืน

Share