คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุคคลผู้มีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรแต่บิดาเป็นคนต่างด้าวแม้จะได้ขอมีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วก็ตามก็ยังคงเป็นคนไทยอยู่ ตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495 มาตรา7 จนถึงวันใช้ พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2496 บังคับ ฉะนั้นคนเช่นว่านี้แม้จะขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวในระหว่างเวลาก่อนใช้ พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2496 จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2495 มาตรา4

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าว จำเลยได้ขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวลงวันที่ 15 กันยายน 2486 ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2494 จำเลยได้ขอต่ออายุใบสำคัญประจำตัวชนิดที่ 2 ตามความใน มาตรา 10 พระราชบัญญัติ การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 มีกำหนด 5 ปี จำเลยไม่นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระให้ครบภายในกำหนด 7 วันนับตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2495 เป็นต้นไปขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493 มาตรา 13 และฉบับที่ 2 พ.ศ. 2495 มาตรา 3, 4, 7 กับกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับที่ 2 ข้อ 1 (พ.ศ. 2495)

จำเลยให้การต่อสู้ว่าเป็นคนไทย บิดามารดาเป็นผู้ขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแทน

โจทก์รับว่าจำเลยเกิดจังหวัดชุมพร จำเลยรับว่าบิดามารดาจำเลยสัญชาติอินเดียเกิดนอกราชอาณาจักรไทยโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานศาลชั้นต้นจึงงดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่าจำเลยเป็นคนไทย ไม่ต้องมีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที 2) พ.ศ.2496 มาตรา 5 จำเลยได้ขาดสัญชาติไทยแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2495 มาตรา 4 ให้ปรับจำเลย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าจะยกพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2496มาใช้บังคับไม่ได้ เพราะพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับถัดจากวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2496 เป็นต้นไปซึ่งเป็นเวลาหลังจากโจทก์ฟ้องคดีนี้แล้วนอกจากนี้ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2) มาตรา 4 ยังบัญญัติว่าการแก้ไขเพิ่มเติมนี้ไม่กระทบกระเทือนถึงผู้ที่ได้สัญชาติไทยอยู่ก่อนใช้พระราชบัญญัตินี้ ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2495 มาตรา 7 แล้ว ฉะนั้นก่อนใช้พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2) จำเลยจึงยังคงมีสัญชาติไทยอยู่ ยังไม่มีความผิดตามฟ้องพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share