แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถด้วยความประมาทและฝ่าฝืนกฎหมายโดยขับผ่านสี่แยกด้วยความเร็วกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขับผ่านสี่แยกนั้นฝ่าฝืนเครื่องหมายลูกศรให้เลี้ยวซ้าย เป็นเหตุให้ชนรถอื่นมีผู้บาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรฯ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยผิดตามฟ้องพิพากษาลงโทษตามมาตรา300 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 6 เดือน ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยขับรถเร็วกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยผิดพระราชบัญญัติจราจรฯ ปรับ 100 บาท โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ (หมายเหตุ คำพิพากษาฎีกานี้ มีผลเป็นว่า รูปคดีเช่นนี้ โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังและฝ่าฝืนกฎหมาย โดยขับรถยนต์ผ่านสี่แยกสามยอดด้วยอัตราความเร็วสูงกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขับผ่านสี่แยกนั้นไปในช่องซ้ายของทางฝ่าฝืนเครื่องหมายลูกศรสีขาวให้เลี้ยวซ้าย เป็นเหตุให้ชนรถยนต์สามล้อเสียหาย และนางเสงี่ยมผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัสขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 28, 29, 31, 66 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2481 มาตรา 4 กฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 (ฉบับที่ 2) ข้อ 11 ประกาศเจ้าพนักงานจราจร เรื่องการใช้เครื่องหมายจราจรและการปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร ลงวันที่ 31 มีนาคม 2501 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยขับรถเร็วกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงฝ่าฝืนกฎการจราจรทางบก ได้ชื่อว่าขับโดยประมาท ชนรถสามล้อเครื่องเสียหาย และนางเสงี่ยมได้รับบาดเจ็บสาหัส พิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477มาตรา 27(4), 66 แก้ไข (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2481 มาตรา 4 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ซึ่งเป็นบทหนักตามมาตรา 91 จำคุก6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยขับรถเร็วกว่าชั่วโมงละ 20 กิโลเมตรแต่คนขับขี่รถสามล้อเครื่องขับฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงไปชนรถจำเลย จำเลยไม่ได้ประมาท พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2477 มาตรา 28, 66 พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2481 มาตรา 4 กฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 (ฉบับที่ 2) ข้อ 11 ปรับ 100 บาท
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า การที่รถยนต์สามล้อเสียหายและนางเสงี่ยมได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่พอฟังว่าเป็นเพราะความประมาทของจำเลย พิพากษายืน