คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2134/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปลัดอำเภอมีคำสั่งให้จำเลยเปิดทางที่จำเลยปิด โดยเจ้าพนักงานเห็นว่าเป็นทางสาธารณะใน 3 วัน การนับเวลา3 วันนี้ ต้องนับตามประมวลแพ่งฯ มาตรา 158 คือไม่นับวันที่ออกคำสั่งเข้าไปด้วย ต้องนับวันรุ่งขึ้นจากวันออกคำสั่ง การที่เจ้าพนักงานไปจับจำเลยมาหาว่าขัดคำสั่งก่อนครบกำหนดจำเลยจึงยังไม่ผิดฐานขัดคำสั่งด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2496 จำเลยขุดดินปิดทางเกวียนสาธารณะสำหรับประชาชนใช้สัญจรไปมาโดยไม่มีอำนาจ ครั้นวันที่ 10 พฤษภาคม 2497 นายฉลองปลัดอำเภอ ได้สั่งให้จำเลยจัดการรื้อถอนรั้วและคันนาที่ปิดทางเกวียน อันเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายจำเลยทราบแล้วและยอมรับจะปฏิบัติใน 3 วัน แต่จำเลยกลับขัดขืนไม่ทำตามคำสั่ง จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลย

จำเลยต่อสู้ว่าที่ ๆ จำเลยปิดกั้นทำรั้วและคันนานั้นไม่ใช่ทางสาธารณะและคำสั่งของนายฉลองก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ตัดสินยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า จำเลยทำรั้วและคันนากั้นทางสาธารณะผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 334(2) และ 336(2) ให้รวมกระทงปรับ 30 บาท ถ้าไม่เสียค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 18

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาพิพากษาว่า จำเลยผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 336(2) ส่วนเรื่องคำสั่งของนายฉลอง ปลัดอำเภอลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2497 ให้จำเลยปฏิบัติใน 3 วันนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าการนับเวลาต้องนับตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 158 ซึ่งต้องไม่นับวันแรกรวมเข้าด้วย เมื่อเจ้าพนักงานไปจับจำเลยเสียแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2497 จึงเป็นการจับก่อนถึงกำหนด 1 วัน จะถือว่าจำเลยขัดคำสั่งยังไม่ได้ ในข้อหาข้อนี้ตัดสินให้ยกฟ้อง

Share