คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เดิมจำเลยเช่าห้องพิพาทไว้เดือนละ 60 บาทต่อมาห้องพิพาทโอนกรรมสิทธิไปยังบุคคลภายนอกจำเลยยินยอมเช่าจากบุคคลภายนอกเดือนละ 200 บาท ห้องพิพาทได้โอนต่อไปยังโจทก์ โจทก์ เรียกเก็บค่าเช่าเดิม 200 บาท ที่จำเลยยอมเสียให้จำเลยไม่ยอมชำระให้เป็นเวลากว่าปีเศษดังนี้จำเลยได้ชื่อว่าผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าติดต่อกันเกินกว่า2 เดือนโจทก์มีอำนาจให้จำเลยออกจากห้องพิพาทได้เพราะสัญญายอมเสียค่าเช่า 200 บาทเดิมนั้นเป็นสัญญาที่สมบูรณ์ไม่ขัดต่อ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ 2489 มาตรา 10,11,13และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา113

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์รับซื้อบ้านเลขที่ 245 ต.ดุสิต จาก ร.อ.คงจำเลยเช่าเดือนละ 200 บาท โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบและขอเก็บค่าเช่าจำเลยไม่ยอมชำระ จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเช่า 2,400 บาท และค่าเสียหายต่อไปเดือนละ 200 บาทและให้จำเลยและบริวารออกจากบ้าน

จำเลยต่อสู้ว่าการซื้อขายบ้านรายนี้เป็นการแสดงเจตนาลวงด้วยสมรู้กัน สัญญาเช่าที่โจทก์อ้างเป็นโมฆะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี เพราะขึ้นค่าเช่าโดยฝ่าฝืน พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ 2489 ที่จำเลยยังไม่ชำระค่าเช่าเพราะยังร้องคัดค้านอยู่จำเลยเคยเสียค่าเช่าเดือนละ 60 บาทเท่านั้น

วันชี้สองสถานโจทก์จำเลยรับกันว่าเดิมจำเลยเช่าบ้านจากห้างพระจันทร์โอสถ 40 บาท ต่อมาจำเลยทำสัญญาเช่าจาก ร.อ.คงเจ้าของเดิมจริงแต่เช่าเดือนละ 200 บาท เมื่อโจทก์รับซื้อบ้านนี้จาก ร.อ.คงแล้วจำเลยไม่ชำระเพราะถือว่าสัญญาเป็นโมฆะ โจทก์จำเลยไม่สืบพยาน

ศาลแพ่งพิพากษาว่าจำเลยผิดนัดให้ขับไล่จำเลยและบริวารให้ใช้ค่าเช่าที่ค้างและค่าเสียหาย

จำเลยอุทธรณ์ว่าสัญญาเช่าเป็นโมฆะ

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าที่จำเลยอ้างว่าสัญญาเช่าเป็นโมฆะอ้างเหตุว่าขึ้นค่าเช่าโดยฝ่าฝืน พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แต่ความจริงจำเลยก็รับว่า เมื่อทำสัญญาเช่าบ้านนี้จาก ร.อ.คงเจ้าของเดิมจำเลยยอมให้ขึ้นค่าเช่าจาก 60 บาท เป็นเดือนละ 200 บาท และจำเลยได้ชำระให้แก่ ร.อ.คงตลอดมา การที่จำเลยยินยอมให้ขึ้นค่าเช่าโดยใจสมัครและได้ปฏิบัติต่อมาปีกว่านั้นเห็นว่าสัญญาเช่นนั้นหาเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าไม่ เป็นสัญญาที่ใช้ได้อย่างสมบูรณ์เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่าจำเลยจึงผิดนัด พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย

Share