แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกจากจำเลยครึ่งหนึ่งของมรดกมีทายาทคนหนึ่งร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยอ้างว่ามีส่วนได้ส่วนเสียตามกฎหมายตามทางพิจารณาปรากฏว่าเจ้ามรดกรายนี้มีทายาทรวมทั้งหมด5 คนคือโจทก์จำเลยผู้ร้องสอดและทายาทอื่นอีก 2 คนที่มิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ถือว่าการแบ่งทรัพย์มรดกรายนี้ต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่คู่ความมีสิทธิควรจะได้จะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทอื่นไปให้ด้วยหาได้ไม่เพราะไม่ใช่ส่วนได้ของคู่ความในคดีนี้และการแบ่งเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแห่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1749
ดังนั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วนโดยถือว่าทายาทอีก 2 คนฟ้องหรือร้องขึ้นมาอาจถูกยกอายุความฟ้องแบ่งมรดกหรือสิทธิอ้างอิงเหตุอื่นเป็นข้อต่อสู้ไม่ให้ได้รับส่วนแบ่งหาได้ไม่เพราะเหตุต่อสู้อ้างอิงและผลของการต่อสู้ยังไม่ปรากฏมีขึ้นทั้งทายาทอาจตกลงแบ่งปันกันโดยดีหรือไม่ยกเหตุต่อสู้อะไรก็ได้จึงต้องแบ่งทรัพย์มรดกออกเป็น 5ส่วนให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละ 1 ส่วน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของบิดามารดาจากจำเลยโดยอ้างว่าโจทก์จำเลยเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน บิดามารดาตายแล้วโจทก์จำเลยรับมรดกครอบครองร่วมกันมา บัดนี้จำเลยผู้เป็นพี่โจทก์ขับไล่มิให้โจทก์อยู่ร่วมเรือนมรดกด้วย จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยแบ่งมรดกแก่โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์บางอย่างไม่มีที่จำเลยและว่าได้มีการแบ่งทรัพย์มรดกระหว่างบรรดาทายาทกันแล้วโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ระหว่างพิจารณานายหรุ่มทายาทอีกคนหนึ่งร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่าบิดาโจทก์มีบุตร 5 คนคือโจทก์จำเลยและผู้ร้องสอด และบุตรอีก 2 คน เมื่อบิดามารดาโจทก์จำเลยตายแล้วยังไม่ได้แบ่งมรดกกันแต่ทรัพย์มรดกมีอะไรบ้างโจทก์สืบไม่ได้สมตามฟ้องจึงต้องฟังตามจำเลย แล้วพิพากษาให้แบ่งทรัพย์มรดกในโจทก์ 1 ใน 5 ส่วน ถ้าแบ่งไม่ตกลงกันให้ประมูลขายทอดตลาดแบ่งราคากัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้แบ่งส่วนทรัพย์มรดกเป็น 3 ส่วนให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละ 1 ส่วน
จำเลยฎีกาขอให้แบ่งมรดกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าในข้อแบ่งทรัพย์มรดกควรแบ่งกันกี่ส่วนนั้นศาลฎีกาเห็นว่าการแบ่งทรัพย์มรดกรายนี้ต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่คู่ความมีสิทธิควรจะได้ จะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทอื่นไปให้ด้วยหาได้ไม่เพราะไม่ใช่ส่วนได้ของคู่ความในคดีนี้และการแบ่งเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแห่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นตามความใน มาตรา1749 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งทรัพย์มรดกนี้ออกเป็น 3 ส่วนให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละส่วนโดยยกเหตุว่าหากนางแฉล้มและนายเหลี่ยมทายาทอีก 2 คนฟ้องหรือร้องขอส่วนแบ่งขึ้นมาก็อาจถูกยกอายุความฟ้องแบ่งมรดกหรือสิทธิ อ้างอิงเหตุอื่นเป็นข้อต่อสู้ไม่ให้ได้รับส่วนแบ่งได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเรื่องของทายาทผู้ครอบครองทรัพย์มรดกรายนี้จะยกเหตุต่อสู้อ้างอิงประการใดเมื่อถูกฟ้องขอแบ่งข้อต่อสู้จะมีผลให้ต้องแบ่งหรือไม่เพียงไรยังไม่ปรากฏ หรือเขาอาจยินยอมแบ่งปันกันโดยดีไม่ยกเหตุอะไรเป็นข้อต่อสู้ก็ได้ จึงไม่สมควรจะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทอื่นไปให้ในชั้นนี้ จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อให้แบ่งส่วนทรัพย์มรดกรายนี้ เป็นว่าให้แบ่งออกเป็น 5 ส่วน ให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดนายหรุ่มได้คนละส่วน นอกจากที่แก้คงยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์