คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ผู้ตายถือมีดพร้าขึ้นไปบนเรือน แสดงกริยาจะทำร้ายเขาโดยไม่มีเหตุสมควรเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการข่มเหงเขาอย่างร้ายแรงโดยไม่เป็นธรรมตาม ม.55
ในคดีอาญาเมื่อข้อเท็จจริงหรือข้อ ก.ม. ปรากฎในท้องสำนวนแล้ว ถึงแม้จะไม่มีประเด็นในข้อเหล่านี้ขึ้นมาศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในทางที่เป็นประโยชน์แก่จำเลยได้เพราะเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดพร้าฟันนายมะแซโดยเจตนาฆ่านายมะแซถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษจำเลยให้การรับสารภาพและว่าสาเหตุจากทะเลาะกันก่อน ผู้ตายถือพร้าฟันจำเลย ๆ แย่งได้และฟันผู้ตาย
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย ๑๐ ปี ตาม ก.ม. อาญา ม.๒๔๙,๕๙
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลดโทษฐานยั่วโทษะ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลย ๕ ปีโดยลดโทษตาม ม.๕๕ ด้วย
โจทก์ฎีกาขออย่าให้ลดโทษฐานยั่วโทษะ
ศาลฎีกาเห็นว่ากริยาที่นายมะแซผู้ตายถือมีดพร้าขึ้นไปบนเรือนแสดงกริยาจะทำร้ายจำเลยโดยไม่มีเหตุสมควรดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงโดยไม่เป็นธรรม คดีเข้าบท ม.๕๕
และเห็นว่าในคดีอาญา เมื่อข้อเท็จจริงหรือข้อ ก.ม.ที่ปรากฎในสำนวนแม้จะมิได้มีประเด็นในข้อเหล่านี้มาสู่ศาลก็ดี ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงหรือข้อ ก.ม.นั้น ๆ ในทางที่เป็นประโยชน์แก่จำเลยได้เสมอ เพราะถือว่าเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อย
จึงพิพากษายืน.

Share