แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลพิพากษาริบแร่ดีบุกของกลาง ผู้ร้องเป็นผู้ถือประทานบัตรเป็นเจ้าของแร่ ลูกจ้างของผู้ร้องขนแร่โดยไม่มีใบอนุญาตขนแร่ ซึ่งผู้จัดการของผู้ร้องใช้ให้ทำ เท่ากับผู้ร้องยอมรับรู้ในกิจการที่ผู้จัดการดำเนินการเกี่ยวกับเหมืองแร่ ผู้ร้องอ้างว่ามิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยไม่ได้ ศาลไม่คืนแร่แก่ผู้ร้อง
ย่อยาว
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีแร่ดีบุกและขนย้ายแร่ดีบุกโดยไม่มีใบอนุญาต และให้ริบแร่ดีบุกของกลาง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำร้องที่ผู้ร้องขอรับแร่ดีบุกของกลางคืน ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของแร่ดีบุกของกลางคดีนี้ โดยผู้ร้องได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่และมีการขนแร่ดีบุกของกลางจากเหมืองของผู้ร้องเพื่อนำไปเก็บไว้ที่บ้านผู้ร้อง โดยไม่มีใบอนุญาตขนแร่ ปัญหาว่าผู้ร้องได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดคดีนี้หรือไม่ผู้ร้องเบิกความว่า แร่ดีบุกของกลางเป็นแร่ที่ขุดได้ในเดือนธันวาคม 2518ผู้ร้องเคยเข้าไปดูเหมืองครั้งสุดท้ายเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2518ต่อจากนั้นก็ไม่เคยเขาไปดูในเหมืองเลย มีนายสมบูรณ์ เจียมตัว เป็นผู้จัดการเหมืองของผู้ร้อง และนายสมบูรณ์ เจียมตัว พยานผู้ร้องก็เบิกความว่า พยานใช้นายสอาดขนแร่ ในฐานะที่พยานเป็นผู้จัดการของผู้ร้อง เพื่อผลประโยชน์ของผู้ร้อง และพยานเคยสั่งให้นายสอาดขนแร่แบบเดียวกันหลายครั้งแล้วดังนี้ เห็นว่าการที่ผู้ร้องได้มอบให้นายสมบูรณ์ผู้จัดการเป็นตัวแทนดำเนินกิจการเหมืองแร่รวมตลอดทั้งการขนแร่ด้วยนั้น เท่ากับผู้ร้องยอมรับรู้ในกิจการที่ผู้จัดการของผู้ร้องดำเนินการเกี่ยวกับเหมืองแร่ของผู้ร้อง ที่ผู้ร้องฎีกาว่านายสมบูรณ์สั่งการขนแร่โดยพลการเนื่องจากความจำเป็น โดยผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจนั้นฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน