แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยขับรถเกิดอุบัติเหตุคนตาย จำเลยมีอาการงงเลือดเต็มหน้ามีคนช่วยนำจำเลยขึ้นรถไปส่งสถานีอนามัยรักษาตัวอยู่ 2 วันจึงมีญาติมารับไปสถานีตำรวจ เป็นการที่จำเลยได้รับบาดเจ็บไม่สามารถช่วยตัวเองได้ จำเลยมิได้เจตนาทำผิดฐานไม่ช่วยเหลือตามสมควรและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทันทีศาลยกฟ้องความผิดฐานนี้
ย่อยาว
จำเลยขับรถแท็กซี่ชนกับรถบรรทุก คนในรถของจำเลยตาย 2 คน ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 4 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 281 และจำคุก 6 เดือน ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 30, 68 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ส่วนปัญหาว่าจำเลยขับรถอยู่ในทางและก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตหรือร่างกายแก่บุคคลอื่นแล้วไม่หยุดรถและกระทำการช่วยเหลือตามสมควร และไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันทีนั้น ได้ความจากนางพยอม รักเชื้อชาติ พยานโจทก์ว่าภายหลังเกิดเหตุสามีของนางพยอมและนางพยอมต้องช่วยประคองจำเลยขึ้นรถคนรู้จักให้ช่วยพาไปหาหมอ จำเลยมีอาการงง ๆ เลือดเต็มหน้า จำเลยก็ว่าเมื่อรถชนกัน จำเลยหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมามีคนอุ้มขึ้นรถนายทองพาไปส่งสถานีอนามัยเนินหย่องและพักรักษาอยู่ที่นั่นรวม 2 คืน จึงมีญาติมารับตัวพาไปสถานีตำรวจเพื่อมอบตัว นางสมบุญ เอ็นดูราษฎร์ พยานจำเลยซึ่งรับราชการประจำสำนักงานผดุงครรภ์เนินหย่องเบิกความว่า จำเลยมีบาดแผลที่หน้า แขน มีอาการแน่นหน้าอก รักษาตัวอยู่ที่สำนักงานจนกระทั่งญาติมารับตัวไป แสดงว่าหลังจากเกิดเหตุจำเลยได้รับบาดเจ็บจนกระทั่งไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้แล้ว จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิดฐานไม่กระทำการช่วยเหลือตามสมควรและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงนั้นทันที ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว”
พิพากษายืน