แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งความเป็นหนังสือไปยังผู้ร้องเตือนให้ชำระหนี้เงินกู้ (ตามพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 119 วรรคหนึ่ง) เป็นแต่เพียงหนังสือทวงหนี้หาใช่หนังสือยืนยันหนี้สินอันจะเป็นการแสดงว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 119 วรรคสี่ ซึ่งจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงไม่
แต่การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งความเป็นหนังสือยืนยันหนี้สินไปยังผู้ร้อง(ตามพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 119 วรรคสอง)ถือได้ว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กระทำการอื่นใดอันนับว่ามีผลเป็นอย่างเดียวกับการฟ้องร้องคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173 อายุความย่อมสะดุดหยุดลง
ย่อยาว
ผู้ร้องกู้เงินผู้ล้มละลายเมื่อ 11 เมษายน 2495 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งความเป็นหนังสือไปยังผู้ร้องเตือนให้ชำระหนี้เมื่อ 19 กันยายน 2504 ผู้ร้องได้รับเมื่อ 20 ตุลาคม 2505 และปฏิเสธหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อ 2 พฤศจิกายน 2504 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว แจ้งความเป็นหนังสือยืนยันหนี้ไปยังผู้ร้องเมื่อ 21 มิถุนายน 2505 ผู้ร้องได้รับเมื่อ 12 กรกฎาคม 2505 เป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว นับตั้งแต่วันกู้ คดีจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คดีนี้ ชั้นแรกศาลจังหวัดลพบุรีได้พิพากษาให้จำเลยล้มละลายผู้ร้องได้ทำสัญญากู้เงินจำเลยผู้ล้มละลายเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2495เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงแจ้งให้ผู้ร้องชำระหนี้ดังกล่าวผู้ร้องได้ปฏิเสธหนี้ภายในระยะเวลา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วแจ้งจำนวนหนี้ยืนยันไปยังผู้ร้องตามหนังสือลงวันที่ 21 มิถุนายน 2505
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลว่า ผู้ร้องได้ใช้หนี้หมดแล้ว แต่ผู้ล้มละลายอ้างว่าสัญญาถูกไฟไหม้แล้ว ผู้ร้องได้ดูสัญญานี้จากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2505 เป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว สัญญากู้เป็นโมฆะ
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้การว่า ผู้ร้องร้องคัดค้านต่อศาลเกิน 14 วันนับจากวันที่ผู้ร้องได้ลงนามในบันทึกของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้ผู้ร้องนำเงินมาชำระ และผู้ร้องรับสภาพหนี้แล้วสัญญากู้ไม่เป็นโมฆะ
ศาลจังหวัดลพบุรีวินิจฉัยว่าสิทธิเรียกร้องรายนี้ขาดอายุความแล้วมีคำสั่งให้จำหน่ายชื่อนายจำลอง เทียนศรี ผู้ร้องจากบัญชีลูกหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า สิทธิเรียกร้องรายนี้ยังไม่ขาดอายุความให้ผู้ร้องชำระหนี้ให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 119 วรรคสองมีใจความตอนหนึ่งว่า ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวน เมื่อลูกหนี้ของผู้ล้มละลายปฏิเสธนี้ ถ้าเห็นว่าลูกหนี้เป็นหนี้เท่าใดให้แจ้งจำนวนเป็นหนังสือยืนยันไปยังลูกหนี้นั้นและให้แจ้งไปด้วยว่าถ้าจะคัดค้านให้ร้องคัดค้านต่อศาลภายใน 14 วันนับแต่วันได้รับแจ้งความยืนยัน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การแจ้งความยืนยันดังกล่าวถือได้ว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ทำการอื่นใดอันนับว่ามีผลเป็นอย่างเดียวกับการฟ้องคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173 ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง เพราะพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 119 วรรคสี่แสดงไว้ให้เห็นว่า หากลูกหนี้ดังกล่าวมิได้ร้องคัดค้านต่อศาลภายในกำหนด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำขอให้บังคับคดีต่อลูกหนี้ผู้ได้รับแจ้งความยืนยันได้เลยดุจมีคำพิพากษาแล้ว
ฉะนั้น การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แจ้งความยืนยันจำนวนหนี้ในคดีนี้ไปยังผู้ร้องเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2505 และหนังสือฉบับนี้ถึงผู้ร้องเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2505 จึงเป็นเวลานับจากวันกู้ (11 เมษายน 2495)เกิน 10 ปีแล้ว คดีจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีหนังสือลงวันที่ 19 กันยายน 2505 เตือนทวงถามให้ผู้ร้องชำระหนี้และผู้ร้องได้รับเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2504 ซึ่งอยู่ในระยะเวลา10 ปีจากวันกู้ เป็นการกระทำอื่นใดอันนับว่ามีผลเป็นอย่างเดียวกับการฟ้องร้อง เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173 แล้ว ศาลฎีกาไม่เห็นด้วย เพราะหนังสือดังกล่าวเป็นเพียงหนังสือทวงหนี้ หาใช่เป็นหนังสือแจ้งยืนยันหนี้สินภายหลังการสอบสวนแล้ว ซึ่งเป็นหนังสือที่แสดงว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 119 วรรคสี่ ซึ่งจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงไม่
ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำหน่ายชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีลูกหนี้