คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ให้เช่าไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ให้เช่า
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ตกลงให้โจทก์เช่ารถมีกำหนด 1 ปี รถที่ให้เช่านี้ชำรุดอยู่ได้ตกลงกันให้โจทก์เป็นผู้ซ่อมรถให้ใช้การได้ด้วยทุนทรัพย์ของโจทก์เองครั้นโจทก์รับมอบรถมาซ่อม และเช่าได้ไม่ถึงครึ่งปี จำเลยก็เอารถคืนไปเสีย โจทก์ทวงค่าซ่อมรถก็ไม่ยอมใช้ให้ ขอให้บังคับให้จำเลยใช้เงินค่าซ่อมรถ ดังนี้เป็นที่เห็นได้ว่าที่โจทก์กล้าลงทุนซ่อมรถเอาเองก็โดยหวังว่าจะได้ใช้รถ 1 ปี เมื่อจำเลยผิดสัญญาไม่ยอมให้โจทก์ได้ใช้รถตามที่ตกลงกันไว้ โจทก์ก็มีสิทธิแสดงความเสียหายต่างๆ เพื่อเรียกร้องจากจำเลยในฐานผิดสัญญาได้ การที่ได้ลงทุนซ่อมรถไปนั้นก็เป็นความเสียหายส่วนหนึ่งเหมือนกัน ศาลย่อมบังคับให้จำเลยใช้ให้โจทก์ได้ จำเลยจะอ้างว่าเป็นการบังคับนอกคำฟ้องเพราะโจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ตกลงให้โจทก์เช่ารถของจำเลย เป็นรถยนต์บรรทุกคันหนึ่งกับรถยนต์บดถนนคันหนึ่ง ซึ่งชำรุดใช้การไม่ได้โดยให้โจทก์เป็นผู้ซ่อมรถให้ใช้การได้โดยทุนทรัพย์ของโจทก์เองมีกำหนด 1 ปี โจทก์รับมอบรถมาซ่อมเสียค่าซ่อมไปรวม 9,320 บาท 3 เดือนนับแต่ให้เช่าจำเลยก็ขอรับรถบรรทุกคืนไป คงตกลงให้เช่าแต่รถบดถนนมีกำหนด 1 ปี อีก 2 เดือนแต่ต่อมาขณะที่สามีโจทก์นำรถบดถนนไปรับจ้าง จำเลยแจ้งความต่อตำรวจ ๆ เรียกตัวสามีโจทก์ไปและสามีจำเลยได้แนะนำให้สามีโจทก์นำรถบดถนนไปไว้บ้านจำเลย แล้วจำเลยกับสามีไม่ยอมชำระค่าซ่อมรถให้โจทก์ โจทก์ทวงถามจำเลย ๆ ก็เพิกเฉย ขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงิน 9,320 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 9,320 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยได้ตกลงให้โจทก์เช่ารถรายพิพาทจริงรถชำรุดต้องซ่อมจึงจะให้การได้ โจทก์เป็นผู้ออกค่าซ่อมจริง แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า

1. ข้อที่จำเลยอ้างว่าไม่ใช่รถของจำเลย ก็ไม่เป็นเหตุที่จะให้ฟังว่าจำเลยไม่ได้ให้โจทก์เช่าเพราะผู้ให้เช่าไม่จำต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ให้เช่าก็ได้

2. ที่จำเลยฎีกา แม้จะฟังว่าจำเลยได้ตกลงให้โจทก์เช่ารถและจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาก็ดี แต่ตามฟ้อง โจทก์เรียกเอาค่าซ่อมรถโดยเฉพาะเจาะจง ซึ่งเป็นหน้าที่ของโจทก์ต้องออกค่าซ่อมเองตามสัญญาเมื่อโจทก์เสียค่าซ่อมไปแล้วจำเลยไม่มีหน้าที่จะต้องคืนค่าซ่อมนั้นให้โจทก์ เมื่อโจทก์หาว่าจำเลยผิดสัญญา ก็มีอำนาจฟ้องให้บังคับตามสัญญาหรือเรียกค่าเสียหายได้ แต่เรื่องนี้โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ศาลจะบังคับให้จำเลยคืนเงินค่าซ่อมรถไม่ได้ เพราะนอกคำฟ้องนั้น เห็นว่า เป็นที่เห็นได้ว่าการที่โจทก์กล้าลงทุนซ่อมรถเอาเองก็โดยหวังว่าจะได้ใช้รถตลอดระยะเวลา 1 ปีตามที่ตกลงกัน เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมให้โจทก์ได้ใช้รถตามที่ตกลงกันไว้ โจทก์จึงมีสิทธิแสดงถึงความเสียหายต่าง ๆ เพื่อเรียกร้องจากจำเลยในฐานผิดสัญญาได้ การที่โจทก์ลงทุนซ่อมรถก็เป็นความเสียหายส่วนหนึ่งของโจทก์เหมือนกัน ศาลย่อมบังคับให้จำเลยใช้ค่าซ่อมรถแก่โจทก์ได้ พิพากษายืน

Share