คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นนายกเทศมนตรีออกหนังสืออนุญาตให้บุคคลหนึ่งปลูกสร้างอาคารประชิดที่ดินข้างเคียงได้แล้วต่อมาจำเลยขอหนังสือนั้นคืน และปลอมเอกสารราชการโดยอาศัยโอกาสที่จำเลยมีหน้าที่ขึ้นทั้งฉบับ เป็นไม่อนุญาตให้สร้างอาคารนำเข้าเก็บในเรื่องแทนสำเนาหนังสืออนุญาตตัวจริง ดังนี้ เป็นฟ้องที่แสดงอยู่ว่าจำเลยได้กระทำเอกสารขึ้นฉบับหนึ่งโดยมุ่งหมายให้เข้าใจว่าเป็นเอกสารอีกฉบับหนึ่งอันเป็นการปลอมเอกสาร อาจมีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 161 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ขณะจำเลยเป็นนายกเทศมนตรี ได้ออกหนังสืออนุญาตให้นางแดง แซ่ด่าน ปลูกสร้างอาคารโดยไม่ต้องเว้นที่ดิน 50 เซนติเมตร ประชิดที่ดินข้างเคียงตามหนังสือที่ 449/2503 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2503 ซึ่งฝ่าฝืนกฎหมาย ต่อมาจำเลยขอหนังสือนั้นคืน ระหว่างวันที่ 4 พฤษภาคม ถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2503 จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำและดูแลเอกสารดังกล่าวกระทำการปลอมเอกสารราชการโดยอาศัยโอกาสที่จำเลยมีหน้าที่ขึ้นทั้งฉบับโดยปลอมหนังสือที่ 449/2503 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2503 เป็นสำเนาหนังสือไม่อนุญาตให้นางแดงปลูกสร้างอาคารโดยไม่เว้นที่ดิน50 เซนติเมตร โดยลงเลขที่และวันที่ของหนังสืออย่างเดียวกันกับคู่ฉบับตัวจริง จำเลยเอาสำเนาเอกสารจริงออกจากเรื่องเสียและใช้เอกสารปลอมนั้นเข้าเก็บในเรื่องแทนสำเนาหนังสืออนุญาตตัวจริง เพื่อให้นางแดง ทางราชการ และบุคคลอื่นทั่วไปหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 161, 264, 265, 268

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยาน พิพากษาว่า หนังสือที่จำเลยทำขึ้นเป็นหนังสือที่ลงลายมือชื่อจำเลยเอง ไม่ได้ปลอมหนังสือของใครอื่นจะว่าจำเลยปลอมหนังสือไม่ได้ ให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำตามฟ้องเห็นความประสงค์ของจำเลยที่จะให้คนอื่นหลงเชื่อว่าสำเนาหนังสือที่ทำขึ้นใหม่ก็คือสำเนาหนังสือต้นฉบับเดิม ต้องด้วยบทมาตราที่โจทก์อ้างมาในฟ้อง จึงให้ยกคำพิพากษา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาโดยสืบพยานให้ได้ข้อเท็จจริง แล้วพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาปรึกษาแล้ว ตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 161 ย่อมเห็นได้ว่า เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำเอกสารอาจกระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้นเองได้การกระทำที่โจทก์อ้างมาในฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดดังกล่าวมาข้างต้น แสดงอยู่ว่าจำเลยได้กระทำเอกสารขึ้นฉบับหนึ่งโดยความมุ่งหมายให้เข้าใจว่าเป็นเอกสารอีกฉบับหนึ่ง อันเป็นการปลอมเอกสารขึ้นทั้งฉบับ มิใช่แต่เพียงจำเลยทำเอกสารที่มีข้อความเป็นเท็จเท่านั้น การกระทำที่โจทก์อ้างมาในฟ้อง จึงอาจมีมูลความผิดตามบทมาตราในกฎหมายที่โจทก์อ้าง ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share