คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขายที่ดินมือเปล่าให้แก่โจทก์ทำหนังสือสัญญากันเองทั้งสองฝ่ายมิได้มีเจตนาที่จะไปจดทะเบียนการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โจทก์ชำระเงินให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาและขัดขวางไม่ให้โจทก์เข้าทำประโยชน์ในที่พิพาทดังนี้สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาดเมื่อไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงเป็นโมฆะจำเลยยังไม่ได้ส่งมอบที่ดินให้โจทก์โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบที่ดินและขับไล่จำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาสละกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน 1 แปลง เป็นที่ดินอยู่ในเขตกฤษฎีกาหวงห้ามสำหรับใช้ราชการทหารขายให้โจทก์ในราคา 10,000 บาท จำเลยที่ 1 ได้รับเงินไปและสละที่ดินส่งมอบให้โจทก์เป็นเจ้าของแต่วันทำสัญญาจำเลยที่ 1 ได้ตกลงรื้อเรือนไปแต่ก็ไม่ปฏิบัติ เมื่อเดือน 7 จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุตรเขยได้เข้าแย่งไถนาในที่พิพาท ขอให้ศาลแสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้แสดงเจตนาสละสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทให้โจทก์ และให้ส่งมอบที่ดิน ขับไล่จำเลยทั้งสองออกไปจากที่พิพาท

จำเลยทั้งสองให้การว่า ไม่ได้ทำสัญญาขายที่นาให้โจทก์ ไม่เคยส่งมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้โจทก์ ไม่เคยขอผัดผ่อนที่จะรื้อสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดิน จำเลยที่ 1 อนุญาตให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุตรเข้าทำกิน ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยที่ 1 ขายที่นาพิพาทให้โจทก์จริงจึงพิพากษาขับไล่จำเลยทั้งสอง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า สัญญาขายที่ดินทำกันเอง โจทก์ชำระราคาแล้วแต่จำเลยยังไม่ได้ส่งมอบที่ดินให้ สัญญาซื้อขายทำกันเองไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบที่ดินและขับไล่จำเลยไม่ได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ได้ขายที่พิพาทให้โจทก์ทำหนังสือสัญญากันเอง ทั้งสองฝ่ายไม่มีเจตนาที่จะไปจดทะเบียนการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โจทก์ชำระราคาที่ดินให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้ว จำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญา และขัดขวางไม่ยอมให้โจทก์เข้าทำประโยชน์ในที่พิพาท สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาด สัญญาซื้อขายรายนี้จึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบที่ดินและขับไล่จำเลยไม่ได้ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share