แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยนำภาพถ่ายของตนมาปิดทับลงในสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับรถของตนแม้เพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจและบุคคลทั่วไปหลงเชื่อว่าเป็นต้นฉบับเอกสารที่แท้จริงแต่ก็ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆแก่ผู้อื่นหรือประชาชนจึงไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารและแม้จะได้นำไปใช้ก็ไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมและเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยจำเลยยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า เมื่อ วันที่ 6 ตุลาคม 2536 เวลา กลางคืน ก่อน เที่ยงจำเลย กระทำผิด ต่อ กฎหมาย หลายกรรม ต่างกัน กล่าว คือ จำเลย ได้ ทำ ปลอมขึ้น ซึ่ง ใบอนุญาต ขับ รถ อันเป็น เอกสารราชการ ของ สำนักงาน ขนส่งจังหวัด ขอนแก่น กรมการขนส่งทางบก โดย แก้ไข เพิ่มเติม ภาพถ่าย ในเอกสาร ที่ แท้จริง โดย จำเลย นำ สำเนา ภาพถ่าย ใบอนุญาต ขับ รถ ของ จำเลยเลขที่ ขท. 1716/2523 ชนิด ที่ สาม มา แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมเอา ภาพถ่าย หน้า จำเลย ขนาด 1 นิ้ว มา ปิด ทับ ลง ใน สำเนา ภาพถ่าย ใบอนุญาตขับ รถ ดังกล่าว แล้ว อัด กรอบ พลาสติก ขนาด เท่า เอกสาร ที่ แท้จริง ทั้งนี้เพื่อ ให้ เจ้าพนักงาน ตำรวจ และ บุคคล ทั่วไป หลงเชื่อ ว่า สำเนา ภาพถ่ายใบอนุญาต ขับ รถ ดังกล่าว เป็นต้น ฉบับ เอกสารราชการ ที่ ถูกต้อง แท้จริงของ สำนักงาน ขนส่ง จังหวัด ขอนแก่น ที่นาย ทะเบียน เป็น ผู้ จัดทำ ขึ้นโดย ประการ ที่ น่า จะ เกิด ความเสียหาย แก่ สำนักงาน ขนส่ง จังหวัด ขอนแก่นกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม และ ประชาชน แล้ว จำเลย ได้ ใช้ใบอนุญาต ขับ รถ ที่ จำเลย ทำ ปลอม ขึ้น ดังกล่าว อ้าง แสดง ต่อ ร้อยตำรวจเอก สำเริง สมบูรณ์กิตติกร เจ้าพนักงาน ตำรวจ ประจำ สถานีตำรวจ ทางหลวง 4กอง กำกับ การ 1 กรมตำรวจ ขณะ ปฏิบัติ หน้าที่ เรียก ตรวจ ใบอนุญาต เป็นผู้ขับ รถ เพื่อ ให้ หลงเชื่อ ว่า เป็น ใบอนุญาต ขับ รถ ที่ แท้จริง ทั้งนี้โดย ประการ ที่ น่า จะ เกิด ความเสียหาย แก่ ร้อยตำรวจเอก สำเริง และ ประชาชน เหตุ เกิด ที่ ตำบล กลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัด นครราชสีมา เจ้าพนักงาน จับ จำเลย ได้ พร้อม กับ ยึด ใบอนุญาต ขับ รถ ที่ จำเลย ทำ ปลอม ขึ้นดังกล่าว เป็น ของกลาง ขอให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264,265, 268, 91, 32, 33 และ ริบของกลาง
จำเลย แถลง ขอ ต่อสู้ คดี แต่ มิได้ ยื่นคำให้การ ถือว่า จำเลย ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265, 268 ให้ ลงโทษ ตาม มาตรา 268 กระทง เดียว จำคุก 1 ปีคำให้การ รับสารภาพ ชั้นสอบสวน ของ จำเลย เป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณามีเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษ ให้ หนึ่ง ใน สาม ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คง จำคุก จำเลย มี กำหนด 8 เดือน ริบของกลาง
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา โดย ผู้พิพากษา ซึ่ง พิจารณา และ ลงชื่อ ใน คำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาต ให้ ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “จำเลย ฎีกา เป็น ปัญหาข้อกฎหมาย ข้อ แรก ว่าการกระทำ ของ จำเลย ตาม ที่ โจทก์ บรรยาย มา ใน ฟ้อง เป็น ความผิด ฐาน ปลอมเอกสาร หรือไม่ เห็นว่า การ ที่ จำเลย นำ เอา ภาพถ่าย ของ จำเลย เอง มา ปิดทับ ลง ใน สำเนา ภาพถ่าย ใบอนุญาต ขับ รถ ของ จำเลย ถึง แม้ จะ กระทำ ไป เพื่อให้ เจ้าพนักงาน ตำรวจ และ บุคคล ทั่วไป หลงเชื่อ ว่า เป็นต้น ฉบับ เอกสารที่ แท้จริง แต่ ใน เมื่อ เป็น ภาพถ่าย ของ จำเลย และ เป็น สำเนา ภาพถ่ายใบอนุญาต ขับ รถ ของ จำเลย เอง การกระทำ ของ จำเลย ย่อม ไม่ ก่อ ให้ เกิดความเสียหาย ใด ๆ แก่ ผู้อื่น หรือ ประชาชน จึง ไม่เป็น ความผิด ฐานปลอมเอกสาร แม้ จำเลย จะ นำ ไป ใช้ ก็ ไม่ทำ ให้ จำเลย มี ความผิด ฐาน ใช้เอกสารปลอม ตาม ที่ โจทก์ ฟ้อง ไป ได้ ปัญหา นี้ เป็น ข้อกฎหมาย ที่ เกี่ยวกับความสงบ เรียบร้อย แม้ จะ ไม่ได้ ยกขึ้น ใน ศาลชั้นต้น และ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1ก็ ตาม จำเลย ผู้ฎีกา ก็ ยกขึ้น อ้าง ได้ ตาม ประมวล กฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบ มาตรา 225 คดี ไม่จำต้อง วินิจฉัยปัญหา ตาม ฎีกา ข้อ อื่น ของ จำเลย อีก ต่อไป คำพิพากษา ของ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1ไม่ต้อง ด้วย ความเห็น ของ ศาลฎีกา ฎีกา ของ จำเลย ฟังขึ้น ”
พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง