แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ทนายโจทก์ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบแล้วแต่มาถึงศาลชั้นต้นซึ่งเป็นเวลาอันเลยกำหนดนัดไปแล้วหนึ่งชั่วโมงครึ่งเนื่องจากรถยนต์ของทนายโจทก์มีเหตุขัดข้อง ทนายโจทก์สามารถจอดรถไว้ข้างทางแล้วรีบโทรศัพท์แจ้งศาลทราบทันที หรือมิฉะนั้นก็รีบเดินทางมาศาลด้วยรถยนต์รับจ้างได้ แต่ทนายโจทก์มิได้ดำเนินการดังกล่าวแต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่าทนายโจทก์ไม่เอาใจใส่หรือเล็งเห็นถึงความสำคัญในเวลานัดของศาล กรณีไม่มีเหตุสมควรให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูลให้ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา ในวันนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 31 สิงหาคม 2542เวลา 9 นาฬิกา ฝ่ายโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัด ศาลชั้นต้นได้รออยู่จนถึงเวลา 10.30 นาฬิกา จึงมีคำสั่งยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่ง(ที่ถูกมาตรา 166 วรรคหนึ่ง) ประกอบมาตรา 181)
โจทก์ยื่นคำร้องว่า ทนายโจทก์มีเหตุสมควรที่มาศาลตามกำหนดนัดไม่ได้ ขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
จำเลยทั้งสามไม่ยื่นคำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า มีเหตุสมควรที่ศาลชั้นต้นจะยกคดีโจทก์ขึ้นพิจารณาใหม่หรือไม่ เห็นว่า การที่จะให้ศาลชั้นต้นยกคดีโจทก์ขึ้นพิจารณาใหม่ได้นั้นโจทก์จะต้องแถลงให้เห็นว่า มีเหตุสมควรที่มาศาลในวันนัดไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 181 คดีนี้ศาลชั้นต้นได้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 31 สิงหาคม 2542 เวลา 9 นาฬิกา ซึ่งทนายโจทก์ได้ทราบวันเวลานัดดังกล่าวโดยชอบแล้ว แต่ทนายโจทก์ก็มิได้มาศาลตามกำหนดนัดโดยได้ความจากคำเบิกความของทนายโจทก์ในชั้นไต่สวนคำร้องว่าเหตุที่ทนายโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนั้น เนื่องจากในวันนัดทนายโจทก์เพิ่งออกจากบ้านพักที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรีเวลา 8 นาฬิกา และขณะที่ทนายโจทก์ขับรถยนต์เดินทางมาศาลชั้นต้นนั้น พบว่ายางล้อรถด้านหน้าแบน ทนายโจทก์จึงต้องขับรถช้า ๆ จนถึงสถานีบริการน้ำมัน แต่ไม่มีบริการปะยาง ทนายโจทก์จึงขับรถไปเติมลมยาง ขณะนั้นเป็นเวลาเกิน 9 นาฬิกาแล้ว ทนายโจทก์ได้ขับรถและเติมลมยางมาเรื่อยจนกระทั่งมาถึงศาลชั้นต้นเป็นเวลา10.50 นาฬิกา และทราบว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องโจทก์ไปแล้วเห็นว่า ขณะที่รถยนต์ของทนายโจทก์มีเหตุขัดข้องนั้น ทนายโจทก์สามารถจอดรถไว้ข้างทางแล้วรีบโทรศัพท์แจ้งศาลทราบทันที หรือมิฉะนั้นก็รีบเดินทางมาศาลด้วยรถยนต์รับจ้างได้ซึ่งตามเส้นทางที่ทนายโจทก์ขับรถยนต์ผ่านมา ทนายโจทก์เบิกความยอมรับว่ามีสภาพการจราจรหนาแน่น ไม่ใช่ที่เปลี่ยว ทนายโจทก์จึงน่าจะหาเครื่องโทรศัพท์หรือรถยนต์รับจ้างได้โดยง่าย แต่ทนายโจทก์ก็มิได้ดำเนินการดังกล่าวแต่อย่างใดคงปล่อยให้ศาลและคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งรออยู่จนล่วงเลยเวลานัดไปถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งยกฟ้องโจทก์ พฤติการณ์ของทนายโจทก์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าทนายโจทก์ไม่เอาใจใส่หรือเล็งเห็นถึงความสำคัญในเวลานัดของศาลเลย เหตุขัดข้องของทนายโจทก์ดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องที่ทนายโจทก์จะยกขึ้นเป็นข้อแก้ตัวหรือยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อให้ศาลชั้นต้นยกคดีโจทก์ขึ้นพิจารณาใหม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาให้ยกคำร้องของโจทก์ จึงต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน