คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2292/2544

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมโพยสลากกินรวบ13 แผ่น กระดาษรายการแทงพนันฟุตบอล 7 แผ่น ซึ่งถือว่าไม่มากก็ตามแต่จำนวนเงินที่แทงพนันเป็นจำนวนมากเป็นแสนบาทขึ้นไปแสดงให้เห็นว่าจำเลยเล่นการพนันเป็นอาชีพ ตามพฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง ทั้งจำเลยมีประวัติในการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนันและความผิดอื่นมาแล้ว แสดงว่าจำเลยไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย หมกมุ่นอยู่กับอบายมุข ไม่พยายามปรับปรุงตัวหรือแก้นิสัยความประพฤติให้ดีขึ้น การที่ศาลล่างใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษให้นั้น เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันกล่าวคือ จำเลยกับพวกที่หลบหนีร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบซึ่งเป็นการพนันตามบัญชี ข. หมายเลข 16 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ส่วนพวกที่หลบหนีเป็นลูกค้าผู้แทงพนัน การเล่นการพนันนี้ถือเอาเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัวของรางวัลที่ 1 และเลขท้าย 2 ตัวล่าง และ 3 ตัวล่าง ของสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2543 เป็นเลขชี้ขาดในการถูกรางวัล และจำเลยกับพวกที่หลบหนีร่วมกันเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลซึ่งแข่งขันกันในประเทศอังกฤษ อิตาลี เยอรมัน และระหว่างประเทศในทวีปยุโรปซึ่งแข่งขันกันในวันที่ 1 เมษายน 2543 โดยถือเอาผลการแพ้ชนะของการแข่งขันของฟุตบอลแต่ละคู่เป็นเกณฑ์ในการพนัน อันเป็นการพนันนอกจากที่กล่าวมาในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตมีผู้ประสงค์ขอรับเงินสินบนนำจับนำเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมโพยสลากกินรวบ 13 แผ่น กระดาษรายการแทงพนันฟุตบอล7 แผ่น เงินสดจำนวน 17,900 บาท ซึ่งเป็นเครื่องใช้ในการเล่นการพนันดังกล่าวเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 6, 10, 12, 15 ริบของกลางและจ่ายเงินสินบนนำจับตามกฎหมาย

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 6,10, 12 ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้สลากกินรวบ จำคุก 3 เดือนฐานเป็นผู้เล่นการพนันทายผลฟุตบอล จำคุก 3 เดือน รวมจำคุก6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ริบของกลาง ยกคำขอให้จ่ายเงินสินบนนำจับ

จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษนั้นเห็นว่า แม้เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมโพยสลากกินรวบ13 แผ่น กระดาษรายการแทงพนันฟุตบอล 7 แผ่น ซึ่งถือว่าไม่มากก็ตาม แต่จำนวนเงินที่แทงพนันเป็นจำนวนมากเป็นแสนบาทขึ้นไปแสดงให้เห็นว่าจำเลยเล่นการพนันเป็นอาชีพ เล่นได้เสียเป็นเงินจำนวนมาก ตามพฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง นอกจากนี้ยังปรากฏจากรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยของพนักงานคุมประพฤติซึ่งศาลชั้นต้นให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยไม่คัดค้านว่าจำเลยมีประวัติในการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติการพนัน1 ครั้ง เมื่อ พ.ศ. 2542 ศาลชั้นต้นลงโทษปรับและกระทำความผิดอื่นอีก 1 ครั้ง เมื่อ พ.ศ. 2541 โดยศาลชั้นต้นรอการลงโทษจำคุกไว้แสดงว่าจำเลยไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย หมกมุ่นอยู่กับอบายมุขไม่พยายามปรับปรุงตัวหรือแก้นิสัยความประพฤติให้ดีขึ้นตามที่ศาลชั้นต้นได้ให้โอกาส ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน โดยไม่รอการลงโทษให้นั้น เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share