คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 155/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ยกที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญมอบการครอบครองให้แล้วผู้รับย่อมได้สิทธิครอบครองโดยมิต้องทำหนังสือและจดทะเบียนการให้เมื่อมีผู้บุกรุกรบกวน ผู้รับย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้

ย่อยาว

คดี 2 สำนวน พิจารณาพิพากษารวมกัน

โจทก์ฟ้องว่า นายเหลื่อมบิดาโจทก์มีที่นาและที่สวน 75 ไร่ นายเหลื่อมได้ยกให้นางล้วนโจทก์ 25 ไร่ ให้นางอุไรโจทก์ 10 ไร่ แต่คงปกครองทำกินร่วมกันมาจนเดือนกุมภาพันธ์ 2498 นายเหลื่อมจึงมอบกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ไปแจ้งการครอบครองและถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของโดยสงบและเปิดเผยตลอดมา ครั้น เดือน 7 พ.ศ. 2500 จำเลยบุกรุกเข้ามาปลูกต้นกล้วย เมล็ดละหุ่ง ในที่ของนางล้วนโจทก์ประมาณ 9 ไร่ ของนางอุไรโจทก์ประมาณ 5 ไร่ โจทก์จึงฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์บังคับจำเลยและบริวารไม่ให้เกี่ยวข้องและเรียกค่าเสียหาย

จำเลยต่อสู้ว่า ที่พิพาทไม่ใช่ของนายเหลื่อม ๆ ไม่ได้ปกครองไม่มีสิทธิยกให้โจทก์ ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าและป่า จำเลยเข้าจับจองแต่ พ.ศ. 2497 ปกครองทำกินมาโดยสุจริต เปิดเผย โจทก์ก็รู้ มิได้ฟ้องภายใน 1 ปี หมดสิทธิในการฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ที่นายเหลื่อมยกที่ดินให้โจทก์ไม่ได้จดทะเบียน การยกให้เป็นโมฆะ ถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครอง จึงไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์มีอำนาจฟ้อง พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยและบริวารไม่ให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาพิพากษายืน โดยวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นของนายเหลื่อมครอบครองมาก่อน จึงมีสิทธิยกให้แก่โจทก์ได้ แม้การยกให้จะมิได้ทำนิติกรรมจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงาน แต่ที่พิพาทเป็นที่ไม่มีหนังสือสำคัญ ผู้ครอบครองอยู่มีแต่เพียงสิทธิครอบครอง เมื่อนายเหลื่อมผู้มีสิทธิครอบครองอยู่ได้แบ่งยกให้โจทก์ ๆ เข้าครอบครองมา สิทธิของนายเหลื่อมก็สิ้นสุดลง เพราะได้เจตนาสละสิทธิครอบครองให้แก่โจทก์แล้ว โจทก์จึงได้สิทธิครอบครองและมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้บุกรุกมารบกวนสิทธิของโจทก์ได้

Share