คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บทบัญญัติมาตรา 272(1) เป็นบทบังคับในเรื่องเครื่องหมายของสินค้าอันเป็นที่สังเกตว่าเป็นสินค้าของใครเท่านั้นมิใช่ห้ามการผลิตสินค้าโดยใช้วัตถุในการผลิตหรือวิธีการผลิตเหมือนกับของผู้อื่น เช่นการปรุงยาโดยใช้ส่วนผสมซึ่งมีตัวยาบางอย่างเหมือนกันหรือใช้ตำรับเดียวกันอันเป็นสูตรหรือวิธีการผลิต ซึ่งยังไม่มีบทบัญญัติในกฎหมายไทยก่อตั้งสิทธิประเภทนี้และให้ความคุ้มครองไว้การใช้ชื่อหรือข้อความในการประกอบการค้าตามมาตรา 272(1) จึงไม่แปลไปถึงการใช้ชื่อหรือข้อความนั้นในสูตรหรือวิธีการผลิตด้วย ฉะนั้น แม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยนำชื่อยาของโจทก์ร่วม ซึ่งจะเป็นชื่อเฉพาะหรือไม่ก็ตามมาแสดงว่าจำเลยได้เอายาของโจทก์ร่วมทำเป็นส่วนผสมในการปรุงยาของจำเลย ก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 272(1) ดังกล่าวเพราะเป็นการแสดงถึงส่วนผสมอันเป็นสูตรหรือวิธีการผลิตเท่านั้นทั้งการกระทำดังว่านี้ยังแสดงอยู่ว่ายานั้นเป็นยาที่จำเลยปรุงขึ้น และถึงแม้ว่าจะทำให้เข้าใจไปได้ว่ายาของจำเลยมีคุณภาพและมาตรฐานเหมือนยาของโจทก์ร่วมก็ไม่เป็นการแสดงว่าเป็นสินค้าของโจทก์ร่วมอยู่นั่นเอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามได้ร่วมกันทำผิดเอาชื่อเคมีวัตถุชื่อบูตาโซลิดิน อันเป็นชื่อในการประกอบการค้าและยารักษาโรค เป็นเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนต่อกองทะเบียนเครื่องหมายการค้ากระทรวงเศรษฐการของบริษัท เจ.อาร์.ไกจิ จำกัดมาใช้ และทำให้ปรากฏที่หีบและวัตถุที่ใช้ห่อหุ้มสินค้ายารักษาโรคชื่อ บูตาเพรดของจำเลยที่ 1 เพื่อเจตนาให้ประชาชนหลงเชื่อว่ายารักษาโรคชื่อบูตาเพรดของจำเลยเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้เสียหาย และจำเลยได้เสนอจำหน่ายยารักษาโรคชื่อบูตาเพรดต่อประชาชนทั่วราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272, 83

บริษัท เจ.อาร์.ไกจิ เอส.เอ. ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าชื่อ บูตาโซลิดินเป็นชื่อบริษัทไกจิโจทก์ร่วมใช้อยู่ในการประกอบการค้ายาชนิดนี้ และจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าไว้แล้ว มิใช่ชื่อสูตรยาสามัญหรือชื่อสากล จำเลยเอาชื่อยาบูตาโซลิดินไปใช้ไม่ได้เป็นการไม่สุจริต ทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่ายาของจำเลยเป็นยาของโจทก์ร่วม หรือทำให้หลงผิดว่ามีคุณภาพและมาตรฐานเหมือนยาของโจทก์ร่วม หรือทำให้หลงผิดว่ายาของจำเลยได้เอายาบูตาโซลิดินของโจทก์ร่วมมาทำเป็นส่วนผสมในยาของจำเลยด้วย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1) ข้อที่จำเลยอ้างว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 แต่ในนามก็ไม่เป็นข้อแก้ตัวได้ พิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1), 83 ให้ปรับคนละ 1,000 บาท

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสามฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า บทบัญญัติมาตรา 272(1) เป็นบทบังคับในเรื่องเครื่องหมายของสินค้าอันเป็นที่สังเกตว่าเป็นสินค้าของใครเท่านั้นมิใช่ห้ามการผลิตสินค้าโดยใช้วัตถุในการผลิตหรือวิธีการผลิตเหมือนกับของผู้อื่น เช่นการปรุงยาโดยใช้ส่วนผสมซึ่งมีตัวยาบางอย่างเหมือนกันหรือใช้ตำรับเดียวกันอันเป็นสูตรหรือวิธีการผลิต ซึ่งยังไม่มีบทบัญญัติในกฎหมายไทยก่อตั้งสิทธิประเภทนี้ และให้ความคุ้มครองไว้ การใช้ชื่อหรือข้อความในการประกอบการค้าตาม มาตรา 272(1) จึงไม่แปลไปถึงการใช้ชื่อหรือข้อความนั้นในสูตรหรือวิธีการผลิตด้วย ฉะนั้น แม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยนำชื่อยาของโจทก์ร่วมซึ่งจะเป็นชื่อเฉพาะหรือไม่ก็ตาม มาแสดงว่าจำเลยได้เอายาของโจทก์ร่วมทำเป็นส่วนผสมในการปรุงยาของจำเลย ก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 272(1) ดังกล่าว เพราะเป็นการแสดงถึงส่วนผสมอันเป็นสูตรหรือวิธีการผลิตเท่านั้น ทั้งการกระทำดังว่านี้ยังแสดงอยู่ว่ายานั้นเป็นยาที่จำเลยปรุงขึ้น และถึงแม้ว่าจะทำให้เข้าใจไปได้ว่ายาของจำเลยมีคุณภาพและมาตรฐานเหมือนยาของโจทก์ร่วม ก็ไม่เป็นการแสดงว่าเป็นสินค้าของโจทก์ร่วมอยู่นั่นเอง

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องโจทก์และโจทก์ร่วม

Share