แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่าจำเลย 4 คนร่วมกันปล้นทรัพย์และฆ่าผู้เสียหายตายข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยคนหนึ่งรู้เห็นว่าจะมีการปล้นมาก่อนแต่ไม่ได้ความว่าได้ร่วมคิดวางแผนแบ่งหน้าที่รับมากระทำเป็นส่วนๆด้วยจำเลยคนนี้เพียงรับจัดการจำหน่ายทรัพย์ที่จำเลยอื่นปล้นได้โดยเข้ามาร่วมกระทำด้วยเมื่อมีการขนทรัพย์นั้นเคลื่อนที่อันเป็นการลักทรัพย์สำเร็จเท่านั้น การกระทำในตอนใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายนั้นจำเลยนี้อยู่ที่อื่นห่างไกลจำเลยจึงยังไม่มีความผิดฐานร่วมปล้นทรัพย์และฆ่าผู้เสียหาย แต่มีความผิดเพียงฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(7)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสี่ร่วมกันปล้นกระสอบป่าน และร่วมกันใช้อาวุธยิงตีและแทงนายเลี่ยงฮ้อผู้ขับรถบรรทุกกระสอบตายโดยเจตนาฆ่า ฯลฯ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 92, 288, 289 และ 340
จำเลยทุกคนให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคหนึ่ง และจำเลยที่ 2, 3 มีความผิดตามมาตรา 289(7)อีกระทงหนึ่ง
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสี่ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1, 2 และ 3 ได้กระทำผิดดังฟ้อง และฟังว่าจำเลยที่ 4 ได้ร่วมรู้เห็นในการปล้นด้วย แต่สำหรับนายเป็งเกียงจำเลยที่ 4 ข้อเท็จจริงตามที่ได้ความในสำนวน แม้นายเป็งเกียงจำเลยที่ 4 จะได้รู้เห็นว่าจะมีการปล้นมาก่อน แต่ก็ไม่ได้ความถึงกับว่านายเป็งเกียงจำเลยที่ 4 ได้ร่วมคิดวางแผนแบ่งหน้าที่รับมากระทำเป็นส่วน ๆ ด้วย คงได้ความเพียงแต่นายเป็งเกียงจำเลยที่ 4 รับจัดการจำหน่ายกระสอบให้เท่านั้นการกระทำของนายเป็งเกียงจำเลยที่ 4 เท่าที่ได้กระทำไปในคดีนี้เป็นการเข้ามาร่วมกระทำด้วยก็ต่อเมื่อมีการขนกระสอบเคลื่อนที่อันเป็นการลักทรัพย์สำเร็จจากรถยนต์บรรทุกกระสอบที่จำเลยอื่นจับเอาตัวนายเลี่ยงฮ้อผู้ขับรถมาพาเอาตัวไปแล้วเท่านั้น การกระทำในตอนใช้กำลังประทุษร้ายนายเลี่ยงฮ้อนั้น นายเป็งเกียงจำเลยที่ 4 อยู่ที่อื่นห่างไกล หาได้ร่วมกระทำด้วยไม่ นายเป็งเกียงจำเลยที่ 4จึงมีความผิดเพียงฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7)
พิพากษาแก้